สังขละบุรี - ป้อมปี่ 4 วัน 3 คืน

 บันทึกการเดินทาง

10-13.12.20

ทริปนี้ เราจะไปกาญจนบุรีกัน

รอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ แต่รู้ว่าสังขละบุรี รอบนี้ 

คือรอบที่ 2 แล้วจร้า

จาก กทม. ไปยัง อ.สังขละบุรี

ระยะทางประมาณ 300 กว่ากิโล

ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชม.

เพราะทำความเร็วไม่ได้ เนื่องจาก เป็นทางภูเขา

ผมมาถึงป้อมปี่ ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม

ประมาณ ช่วงเย็นๆ มาถึงก็หาที่กางเต็นท์

เลยได้ถ่ายแค่ บรรยากาศประมาณนี้

ค่ากางเต็นท์ คนละ 40 บาท

ค่ารถยนต์ 40 บาท

ในเย็นวันนี้ ก็เป็นเมนูง่ายๆ

เป็นการทำหม่าล่า ครั้งแรก

และแน่นอน ว่ามันแอบเค็มไปเล็กน้อย

แต่ก็ยังมีสเต็กอีกอย่าง

ที่ยังพอประทังไปได้

อากาศในวันนี้ ค่อนข้างเย็น

แม้ตอนกลางวันจะร้อนอบอ้าวก็ตาม

11.12.20

แต่เมื่อตื่นมาก็จะมาเจอกับวิวแบบนี้

มันช่าง เป็นรางวัลของนักเดินทางอย่างแท้จริง

มีหมอกในยามเช้า

ช่างเป็นบรรยากาศ ที่เหมาะกับหน้าหนาวสุดๆ

มื้อเช้าวันนี้ เป็นเมนูง่ายๆ

ชา กาแฟ แล้วก็ไส้กรอก ย่างหม่าล่า

แล้วก็รีบเก็บเต็นท์ เพราะว่าแดดไล่ตูดมาแล้ว

โดยที่ในวันนี้ เราจะไปพักกันที่แพ ในสังขละบุรี

ซึ่งอยู่ห่างออกไป 15 กิโล

ขับรถแป๊ปเดียวก็ถึง

ผมจองไว้กับแพ ศรีเพชร

ในราคาคืนละ 500 บาท

แต่เราต้องขนของลงไปยังแพด้านล่าง

แต่ดีที่ มีพนักงานมาช่วยเรายกของ

เลยไม่เหนื่อยมาก

วิวด้านล่างแพ ก็จะประมาณนี้

เอาของลงมาวางไว้ก่อน ตอนนี้ห้องยังไม่พร้อม

ต้องรอบ่าย 2 ถึงจะพร้อม

เลยขอ ออกไปหาไรกินข้างนอกก่อน

ก็มาเจอกับหมูจุ่มพม่า

ตามสูตร ขอลองซักหน่อย เอามากินกับส้มตำ

ที่ร้านอยู่ตรงนั้นพอดี

พอซักบ่าย2 เราก็กลับมายังที่พัก

อาบน้ำ พักผ่อน เพราะแดดยังร้อนอยู่

ก่อนที่ช่วงเย็น จะออกไปเดินที่สะพานมอญ

พอตื่นมาช่วงเย็น วิวหน้าห้องสวยมาก

แสงสีส้ม พระอาทิตย์ กะลังจะตก

มานั่งชิลหน้าห้อง

ก่อนที่จะเดินไปสะพานมอญ

ไปชมพระอาทิตย์ตกที่นั่น

แค่ระหว่างทางเดินไปก็สวยแล้ว

จากแพเดินมา ประมาณ 500 เมตร ก็ถึงละจร้า

บรรยากาศโดยรอบสะพานมอญ

สวยงามมาก โรแมนติก กับ แสงในช่วงยามเย็น

อยู่ดูจนแสงหมด

กำลังคิดว่าคืนนี้ เราจะกินอะไรกันดี

เลยคิดได้ว่า เรามีเสบียงอยู่หลังรถนี่

ทำไมเราไม่ทำสุกี้กินล่ะ นั่นเป็นความคิดที่ไม่เลว

และนี่คือผลงาน ในคืนนี้

บรรยากาศหน้าห้องยามค่ำคืน 

ก็โรแมนติกไม่น้อย

แพนี้เงียบสงบดีมาก

และมันก็เหมาะมากกับการพักผ่อน

12.12.20

เช้าวันใหม่ ตื่นประมาณ เกือบ 6 โมง

เพราะหน้าหนาว สว่างช้า

พอออกมาหน้าห้อง เห็น เป็ดกะลังเกาะกลุ่ม

ปรึกษากัน จะลงน้ำดีมั๊ยว๊า

น้ำมันเย็น 

เดินไปที่สะพานมอญที่เดิม ในยามเช้า

รับหมอกเย็นๆ แต่วันนี้คนอย่างเยอะ

แต่บรรยากาศดี เลยให้อภัยได้

อากาศก็เย็น

ลองไปชมบรรยากาศที่อยู่บนสะพานมอญดูกันนะ

เป็นวัฒนธรรม ชาวมอญ ล้วนๆ

สเน่ห์ของที่นี่คือ การทำบุญใส่บาตร แบบฉบับ ชาวมอญ

ที่คนนิยม มาที่นี่กัน

ก็เดินถ่ายรูปเล่นไปเรื่อยๆ

สิ่งที่เราได้เห็น คือความแตกต่างด้านวัฒนธรรม 

ซึ่งไม่เหมือนบ้านเรา

พอเดินกลับมา ก็หาร้าน นั่งกินข้าวเช้า

โดยวันนี้ เรากินโจ๊กกันจร้า

เป็นอาหารเช้ายอดฮิต ของที่นี่ เลยนะ

ก่อนที่จะกลับมาเก็บของที่ห้อง

เพื่อเช็คเอาท์ ไปกางเต็นท์

แถวๆ เมืองกาญ อีกรอบ

ขับไปอีก 2 ร้อยกว่ากิโล

ก็มาได้ที่กางเต็นท์ ไร่อิงน้ำ

คนละ 120 บาท มีลำธาร ไว้ให้เล่นด้วย

น้ำเย็นเฉียบเรยนะ

บรรยากาศ ก็ออกแนวแคมป์ปิ้ง ธรรมชาติแบบนี้เรยจร้า

ดูภาพ ก็คงจินตนาการออกนะว่า

กิจกรรม out door มันฟินอยู่นะ

เอาเป็นว่าที่นี่เคร่งเรื่องเสียงโคตรๆ

ซึ่งดีมากสำหรับผม

 4 ทุ่มคือเงียบกริบ

แต่ก็ลำบากหน่อยสำหรับ คนที่ต้องการปาร์ตี้ โดยไม่สนใจคนอื่น

ว่าจะหลับจะนอนยังไง