ชีวิตเริ่ม... เมื่อเริ่ม"ใช้ชีวิต"


โพสต์แนะนำ

ยินดี ปีนัง : hello penang ep.1

สวัสดี ปีนัง             เชื่อว่าหลายๆคน คงมีความฝัน ในชีวิตของตัวเอง   อยากใช้ชีวิตในแบบของตัวเอง อยากทำในสิ่งที่ตัวเองอยากท...

วันพุธที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

บันได สู่ความศรัทธา 3790 ขั้น ณ เขาวงพระจันทร์






บันทึกการเดินทาง ณ วันที่ 09.02.2019


เราเริ่มต้นเดินทางออกจาก กทม ประมาณ 10 โมง 
กว่าจะแพ็คของ เพราะวันนี้เราจะไปแคมป์ปิ้งกัน
เมื่อวาน ก็จัดเบียร์ไป 4 กระป๋อง กับเพื่อนที่ริมทะเลสาบบบ
555 ไหนจะไปซื้อของ ซื้อเบียร์กันอีก หมักไก่ กว่าจะได้นอนก็เกือบเที่ยงคืน





ทำให้วันนี้ออกจาก กทม. ช้ากว่าที่แพลนไว้
แฮร่ๆ แต่ไม่เป็นไร การเดินทาง มันก็ต้องมีเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว
อย่าไปคิดมาก 

โดยวันนี้เราแพ็คข้าวไข่เจียว มากินกันตอนกลางวันด้วย
จะได้ไม่ต้องเสียเงินซื้อ แล้วตอนเย็นก็ไปแคมป์ปิ้ง
ที่ริมเขื่อนป่าสักกัน 

ออกเดินทางมาไม่ไกลก็เริ่มงงกับเส้นทาง
ปกติก็ไม่เคยมาเส้นลพบุรีเท่าไหร่ ระหว่างทางก็แวะเติมน้ำมัน
เติมกาแฟกันซะหน่อยยย หวังว่าเราคงจะไปถึงเขาวงพระจันทร์ไม่เกินเที่ยง



แต่ปรากฏว่า มาถึงเขาวงพระจันทร์ เกือบบ่าย 2
แต่มาถึงแล้วว ยังไงก็ต้องขึ้น แล้วก็ต้องรีบขึ้นด้วยเพราะเขื่อนป่าสัก
อยู่ห่างออกไปอีก 80 กิโลเมตร คาดว่าเราน่าจะ ได้ตั้งแคมป์กันตอนมืด

แต่อย่าเพิ่งไปใส่ใจเรื่องอนาคต เอาตอนนี้ก่อน เอาให้รอด



แดดเปรี้ยงๆ กลางแดดร้อนๆที่เราต้องเดินฝ่าความร้อนไป
เราเริ่มเดินขึ้นกันที่เวลา บ่าย 1 . 55 นาที
กลางแดดแบบนี้ ครั้งแรกที่เห็นยอดเขา คิดในใจ
ทำไมมันเตี้ยจัง ไม่น่าจะถึง ชม.
เป็นไงล่ะ ความคิด

พอได้เวลา ผมก็เร่งสปีด แซงแทบทุกคน
วิ่งขึ้นด้วยซ้ำ แต่พอไปถึง 500 ขั้นแรก คือหน้ามืด เลือดขึ้นหน้า
แดดแรง กระหายน้ำมากๆ ตอนนั้นไม่มีน้ำติดตัวเรย
เพราะคิดว่าเขาลูกแค่นี้ ไม่ต้องใช้น้ำก็ได้




ที่ไหนได้ ถ้าไม่มีน้ำนี่มีสิทธิ์เป็นลมได้เรยย
หลังจากที่ได้กินน้ำ ก็ต้องค่อยๆเดินขึ้น
เพื่อไม่ให้ร่างกายร้อนเกินไป เหมือนตอนที่วิ่งขึ้น

แต่มันก็ยังเหนื่อยง่ายอยู่ดี เนื่องจากอากาศร้อนจัดในวันนั้น
ได้บทเรียนหลายอย่างมากในวันนั้น

จากนั้นก็ค่อยๆเดิน ที่พักหรือว่าศาลา คือมีตลอดทางเดิน
มีเป็นระยะสั้นๆทุกจุด และทุกจุดก็มีคนนั่งพัก
มีอาหารมีน้ำขายเช่นกัน






ก็เดินขึ้นมาเรื่อยๆ แต่ก็ไม่ได้ฝืนตัวเอง
จนในที่สุดเราก็ทำสำเร็จ 3790 ขั้น สู่ยอดเขาวงพระจันทร์
มาถึงตอนเวลา บ่าย 3 . 17 นาที ใช้เวลาเดินขึ้นประมาณ
1 ชม. 20 นาที  เราก็ไม่รู้ว่าปกติ เค้าเดินขึ้นใช้เวลากันเท่าไหร่

พอมาถึงด้านบน จะมีข้าวต้มฟรี กับข้าวฟรี เป็นเหมือนโรงเจ
ไม่มีเนื้อสัตว์นะ มีแทงค์น้ำใหญ่ๆให้กรอก







ใครขึ้นมาถึง ก็ไปกราบไหว้ ทำบุญกันได้ตามศรัทธา
แล้วก็อย่าลืมบริจาคกันด้วยล่ะ





และนี่คือ วัดอีกฝั่งนึง ที่น้อยคนจะมา เพราะว่าเหนื่อยแล้ว
ก็เลยไม่ค่อยมีใครเดินมา ต้องบอกว่าวิวดีมาก
ถ้าขึ้นมาถึงด้านบน เพียงแค่อดทนเดินมาอีกหน่อยก็จะเจอกับวิวแบบนี้


เค้าเรียกตรงนี้กันว่าผานางฟ้า วิวดีมากแต่ฝุ่นเยอะ
เลยมองไม่ค่อยเห็นวิวด้านล่างเรย
ข้างบนวัดก็จะเป็นประมาณนี้




สำรวจกันเสร็จ เราก็เดินกลับลงไปที่เดิม บริเวณโรงทาน
หลังคาสีเหลืองงง ที่นี่เค้ามีข้าวต้มกุ๊ยแจกฟรี
กับข้าวก็จะเป็น ผักกาดดอง กับผัดไชโป๊
ก็อร่อยดีนะ ถ้าเหนื่อยๆ




วิวด้านบนก็จะประมาณนี้  ฝุ่นเยอะเลยมองไม่ค่อยเห็น
บริเวณนี้จะมีป้ายผู้พิชิต 3790 ขั้น อยู่ตรงนี้





หลังจากกินข้าวเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลากรอกน้ำ
แล้วก็เดินลงกันเรย ในขาลงเราลงเรื่อยๆ ไม่เหนื่อย
แต่อาจจะปวดขานิดหน่อย ไม่ได้แวะพักตามศาลาเรยนะ
เพราะมันไม่ต้องใช้แรง แค่ปล่อยไปตามแรงโน้มถ่วง






ในขาลงก็จะเห็นคนแบกของขึ้นเป็นระยะๆ แต่คนเริ่มเยอะแล้ว
ฝั่งขาขึ้นนะ เพราะเค้านิยมเดินขึ้นตอนเย็นกัน ไปจนถึงตอนกลางคืน


ส่วนขาลง ก็จะมีถุงซิ่งนี่แหละเป้นไฮไลท์
ถ้าใครลงเป็นก็ไม่ต้องเมื่อยขาเรย ใช้เวลา 20 นาทีก็น่าจะถึงด้านล่างแล้ว
แต่ถ้าไม่เป็นก็อาจจะปากแตกได้นะ 5555

เพราะฉะนั้น อะไรไม่เคยก็ควรลอง
แต่ก็ไม่ควรประมาท แต่ผมนั้นเดินดีกว่าา
หรือใครจะเตรียมกระสอบมาจากบ้านก็ดีนะ หรืออะไรก็ได้ที่สามารถ
นั่งได้บนราว เอามาใช้ได้หมด


ตอนขาลงเวลาเห็นป้าย อย่าดีใจนะ นั่นคือตัวเลขที่เราต้องเดินลง
55555 แล้วก็ขยะ ขวดนน้ำพลาสติก เค้ามีที่ให้ทิ้งนะ อย่าไปทิ้ง
ข้างทาง ให้ทิ้งในที่ๆเค้าจัดไว้ให้ เลือกที่จะเป็นนักท่องเที่ยว
ก็ต้องไม่ทำลายสถานที่ท่องเที่ยวกันด้วยนะ



เราเริ่มเดินลงกันประมาณ 5 โมงเย็น ตอนนี้เราเห็นพระอาทิตย์
เริ่มเคลื่อนต่ำลงแล้ว แสงแดดก็เริ่มเป็นสีส้ม
บรรยากาศการเดินลง ไปพร้อมกับการดูพระอาทิตย์ตกดินไปพร้อมๆกัน
อย่างฟินๆ




ยิ่งลงไปข้างล่าง ก็ยิ่งเห็นคนมากมายที่แห่กันขึ้น
ในช่วงเย็นๆแบบนี้ คือพีคไทม์สุด



ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. ก็ถึงข้างล่าง
โดยไม่ได้แวะพักเรย ไม่เหนื่อยนะ เรื่อยๆ
ไม่รีบ เดินไปถ่ายรูปไป ฟินจะตาย






พอเดินออกมาจากวัด มองกลับขึ้นไป เริ่มเห็นเค้าเปิดไฟแล้ว
เราจะเห็นเป็นเส้นไฟ ไปจนถึงยอดเขาเรย
ไม่น่าเชื่อนะ 1 ชม. ที่แล้ว ผมยังอยู่บนยอดนั้นอยู่เรย
ตอนนี้มองกลับไปก้รุ็สึกว่า ไม่มียอดเขาลูกไหน ที่ยิ่งใหญ่เกินไป
อยู่ที่ใจของเราว่าเราจะเอาชนะกับสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่อยู่ตรงหน้าได้รึเปล่า



ใครที่จะไป ที่นี่ ที่เขาวงพระจันทร์ก็รีบมานะ เพราะช่วงเทศกาล นี่เค้ามีแค่ 15 วัน
ทุกๆปี ในเดือน ก.พ ผมว่าก็สนุกดีนะเดินกันหลายๆคน
แต่ถ้าเยอะไป มันก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่เนอะ ว่าม่ะ

ยังไงเดี๋ยวเราไปต่อกันที่บทความหน้าเนอะ เพราะเรากำลังจะไป
กางเตนท์กันที่เขื่อนป่าสัก ที่อยู่ห่างออกไปอีก 80 กม.
แล้วนี่ก็มืดแล้วด้วยย 555 จะมีที่นอนมั๊ยน๊าคืนนี้

เราจะย่างเสต๊กกิน จิบเบียร์เบาๆ ฟังเพลงชิลๆริมน้ำ
ตื่นขึ้นมาพร้อมกับพระอาทิตย์ที่มันขึ้นมาแทงหน้า ที่หน้าเต๊นท์
บรรยากาศจะเป็นไง เดี๋ยวติดตามกันน๊าาา

Popular Posts

Facebook