ชีวิตเริ่ม... เมื่อเริ่ม"ใช้ชีวิต"


โพสต์แนะนำ

ยินดี ปีนัง : hello penang ep.1

สวัสดี ปีนัง             เชื่อว่าหลายๆคน คงมีความฝัน ในชีวิตของตัวเอง   อยากใช้ชีวิตในแบบของตัวเอง อยากทำในสิ่งที่ตัวเองอยากท...

วันเสาร์ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2562

300 บาท ไป-กลับ เชียงใหม่แบบอโลน



ทริปวันที่ 30 พ.ค 60

เชียงใหม่ 4 วัน 3 คืน


ทริปนี้เราเริ่มต้นกันที่ การจองตั๋วไว้ในราคา 300 บาท ไป-กลับ ขาละ 150บาท
ของสายการบินแอร์เอเชีย  จองกันข้ามปีเรยทีเดียว และตอนนี้ก็มาถึงวันเวลา
เดินทางซักที  ต้องบอกก่อนว่า วันที่ไปนั้นเกือบจะตรงกับวันพรีเซนต์
โปรเจคจบปี 4 ของผมพอดี แต่ใครจะไปสนกันล่ะ 555


เอาล่ะเข้าเรื่องท่องเที่ยวของเรากันเลยดีกว่า โดยเริ่มที่การนั่งรถตู้
เข้าเมืองกรุงไปสนามบินกัน  ค่ารถตู้จากบางแสน ไปเอกมัย 
ราคาตกประมาณ100 บาท  แล้วทริปนี้ผมต้องบินเดี่ยว
ก็คือไปคนเดียว ไปแบบอโลนๆนี่แหละ


ใช้เวลาประมาณ 2 ครึ่ง ก็ถึงเป้าหมาย
นั่นก็คือเอกมัย แต่ฝนก็ดันมาตกซะนี่ ก็ใช่สิ ก็มันน่าฝนนี่หว่า 55
แต่ดีที่มีบีทีเอส อยู่ตรงหน้าเอกมัย ก็เลยขึ้นไปลงที่สถานี หมอชิต 
แต่ราคาบีทีเอสก็แพงโคตร 52 บาท มั๊ง จำไม่ค่อยได้

พอลงจากบีทีเอส เสร็จ เราก็เดินลงไปรอ รถสายA1 กันเลยยย
เสียค่ารถไปอีก 30 บาท ส่งถึงตัวสนามบิน จากนั้นก็ไปปริ๊นบอร์ดดิ้งพาส
แล้วก็ไปเข้าเกต กันเร๊ยยยย กว่าจะได้บินก็บ่ายโมงนู่นแหละ


จากนั้นก็ไปนั่งเล่นโทรศัพท์ชาจแบตอยุ่คนเดียว
จนมีผญ คนนึง จะมานั่งชาจแบตเหมือนกัน แต่เรานั่งบนเก้าอี้ไง
จะให้ ผญ นั่งพื้นก็ใช่เรื่อง เรยเสียสละ ให้เค้ามานั่งเก้าอี้ แล้วเรา
ไปนั่งพื้นแทน โคตรแมนเรยว่ะ 555




ครั้งแรกสำหรับการขึ้นเครื่องบินไปเที่ยวคนเดียว 
แต่ก็ไม่ได้แย่มากเท่าไหร่ เมื่อถึงเชียงใหม่แล้ววว
สิ่งที่ผมจะทำต่อไปก็คือ หารถเมล์ขาวเข้าตัวเมืองเชียงใหม่
มี2 สาย  B1 กับ B2  ตอนแรกรอจนเกือบถอดใจ เห็นว่ากันว่า แค่ 15 บาท
เท่านั้น  แต่ก็นานจริง กว่าจะมาแต่ละคัน เน้นถูกๆ ครับผม



ขึ้นรถมาได้เราก็บอกคนขับว่าไปลงที่ประตูท่าแพ 
เพราะที่พักเราอยู่ตรงนั้นพอดี ที่พักก็แสนถูก ตกอยู่ที่คืนละ100 บาท
ชื่อที่่พักว่า ท่าแพ แบ็คแพ็คเกอร์  ราคาก็ตามสภาพ แอร์เย็นอยู่นะ
จากนั้นเรา ก็เดินเล่นในถนนท่าแพนั่นแหละ เอากระเป๋าไปเก็บที่พักแล้ว
ก็ลุย!!




วันนี้เราจะไป ร้าน north JaZZ co op ซึ่ง เป็นร้านเล็กๆ แต่ดังมาก
ในตัวเมืองเชียงใหม่  ซึ่งอยู่ห่างจากที่พักประมาณ 2 กิโล
ไปครับผม

ผมไปถึงประมาณ 1 ทุ่มคนยังบางตานัก ดนตรีเริ่มเล่น 2 ทุ่ม
ก็กินเบียร์ฆ่าเวลาไป เบียร์ขวดเล็กที่นี่ขวดละ 80 บาท
ซึ่งถือว่าแพงเอาเรื่องอยู่  แต่พอ 2 ทุ่ม นักดนตรีเริ่มขึ้น 
คนก็ทยอยกันมาจนแน่นร้าน ซึ่งดนตรีก็ดีจริงๆ 
เป็นร้านที่เล่นเพลง แจ๊ซ จริงๆ ยิ่งดึกคนก็ยิ่งมา
ฝนก็เทลงมาอย่างหนัก แต่คนก็ยังมา บางคนนั่งสามล้อมา 
บางคนนั่งอูเบอร์มา โห นี่ คือร้านดังมากในหมู่ฝรั่ง

ทั้งร้านมีผมคนเดียวที่เป็นคนไทย แล้วก็เด็กเสิร์ฟ 55
ประมาณ 4 ทุ่ม ผมจึงขอตัวกลับเลยล่ะกันน 
อยุ่ต่อท่าจะเมาเป็นแน่ 

กลับไปนอนหลับฝันดีเรยครับผม



ตื่นเช้ามา เช็คเอาท์เที่ยง แล้วนั่งรถแดงไปที่เมญ่า
ไปหาข้าวกินที่นั่น ไปเดินเที่่ยวคนเดียว 55
ก็เดินไปจนสุดดาดฟ้า ที่นั่น บรรยากาศดีมาก เห็นวิวดอยสุเทพด้วย 
ฟินเรยยย

หลังจากกินข้าวเดินเล่นเสร็จ ก็ได้เวลากลับไปเช็คอินที่พักใหม่กันแล้ว
เรานั่งรถแดงกลับมาตัวเมือง อีก 30 บาทแล้วเดินต่อไปอีก เกือบ 2 กิโล
ไปแถวช้างคลาน เพื่อไปพักร้านกาแฟที่ชื่อว่า raw hostel


ที่นี่ผมจองมาในราคา 130 บาทเท่านั้น แต่บอกเรยว่าคุ้ม
แอร์ฉ่ำมาก มีครัวทำอาหารด้วย
 พอเช็คอินเสร็จก็ไปอาบน้ำ ก็เจอป้ายนี้ในห้องน้ำ



ทำให้คิดได้ว่าก็ริงนะ เราควรจะทำเดี๋ยวนี้ ไม่ใช่เมื่อวาน
ไม่ใช่พรุ่งนี้แต่เป็นตอนนี้  

อาบน้ำเสร็จก็ไปนอนเล่นโทรศัพท์สักแป๊ป ก็ออกไปหาอะไรกิน
เดินไปแถวนั้น นึกอยากกิน เคเอฟซี ก็เลยไปกิน 55
กินคนเดียวไม่มีคนแย่งก็อร่อยไปอีกแบบ 
พอขากลับเลยสั่งโรตีมากินที่โรงแรมอีก ฟินเรย
ถือเป็นการพักผ่อนที่ดีเรยทีเดียว




พอตื่นเช้าของอีกวัน ก็เดินออกไปซื้อมาม่า กะกาแฟซอง 
มาต้มน้ำชงกินเอง ร้านกาแฟวันนี้ก็ปิดแล้วเจ้าของก็ไม่อยู่เว้ยเฮ้ย
อ้าว แล้วตูจะเช็คเอาท์ไงล่ะ   กะลังชงมาม่าอยู่เจอฝรั่งสาวพอดี
เรยชวนกินกาแฟซะหน่อย เป็นมารยาท  555




หลังจากกินมาม่าเสร็จ เก็บของแล้วไปเขียนโน๊ตทิ้งไว้
แล้วคืนกุญแจกะคีย์การ์ดไว้บนโต๊ะ บริการตัวเอง 555
โรงแรมแอร์ฉ่ำสะใจมาก แล้วผ้านวมก็อุ่นมากด้วย สบายมาก555





โน๊ตเสร็จก็เดินออกไป โรงแรมเดิม ที่เคยมานอนปีที่แล้ว
jao hostel ที่นี่คืนละ 180 บาท ข้างล่างจะเป็นบาร์ ถ้าใครเคยอ่านกระทู้เก่า
ก็จะเห็นผมเล่าถึงที่นี่ไว้หลายครั้งอยู่



ระหว่างทางที่เดินไป ก็เสพบรรยากาศโดยรอบไปด้วย
มันก็เป็นเสน่ห์อย่างนึงนะ ชอบมากเลยเชียงใหม่ วันนี้แดดไม่ค่อยร้อน ฟ้าครึ้มๆ
เดินไปเกือบๆ 2 กิโล ก็ถึง  พอเดินเข้าไป
เจ้าของทักว่า หน้าคุ้นๆ เคยมาพักที่นี่รึป่าว เราก็บอกว่าเคยย
แต่ตอนนั้นมากับน้อง 5555

วันนี้มาคนเดียว  หลังจากเอากระเป๋าขึ้นไปเก็บแล้ว ก็เรยยืมจักรยาน
ของที่พัก ฟรี ออกไปหาไรกิน โอ้ ฟินดีเหมือนกันว่ะ 555
มาเชียงใหม่ 3 วัน ไม่เช่ารถสักวัน  เพราะกะมาพักผ่อน ไม่ได้ออกไปไหนไกล



ไปหาแวะชมเมือง แวะตลาด ก็โอเครอยู่นะ เที่ยวคนเดียวก็ฟินๆกันไป
ไปนั่งกินผัดไทอยู่ตรง ตลาดประตูเชียงใหม่ อิ่มแล้วก็ปั่นไปเที่ยววัดเที่ยววา
เพราะเชียงใหม่ไปไหนก็คงจะเจอแต่วัด 555
เสร็จแล้วไปซื้อขนม ไปกินกับเบียร์ โอ้โห โคตรฟินเรยครับ ท่านผู้ชม




แหม่ ช่างเป็นอะไรที่แม่งโคตร ฟินเรยว่ะ 5555 ชอบนะ บรรยากาศแบบนี้ ฟินๆ
เพลินๆดี เป็นร้านบาร์ ร้านนั่งชิว ที่แม่งโคตรดีอ่ะ เล็กๆ ไม่วุ่นวาย
ใครๆก็ชอบ  ฟังเพลงเคล้าคลอเบาๆ คุยกะเจ้าาของร้านเพลินๆ
โอ๊ย มีความสุข


ชอบตรงที่นี่ร้านเล็ก เป็นกันเอง ดูอบอุ่นมาก  และที่นี่ก็คงเป็นคืนสุดท้าย
ที่พรุ่งนี้เช้า อะไรอะไร ก็คงจะผ่านไป เก็บไว้ได้แต่ความทรงจำ
แค่นั้นเองงงง 

หลังจากตื่นเช้าขึ้นมา ก็เก็บเสื้อผ้าอาบน้ำ เก็บของ
แบกเป้ แล้วออกเดินไปกินข้าวเช้ากัน ก่อนที่จะกลับสู่บางแสนอีกครั้ง
เราก็ต้องเดินมาทางขัวเหล็ก เพื่อที่จะไปกินข้าวเช้าย่าน ไนท์บาร์ซ่า
ของเชียงใหม่




แล้วเราก็มาเจอร้านที่ขาย โจ๊ก ต้มเลือดหมู แล้วววสำหรับมื้อนี้ของผมนั้น
ขอเป็นมื้อเบาๆ แค่ ต้มเลือดหมูเบาๆพอ
ราคาก็เบาๆ 40 บาท ข้าวเปล่าอีก 10 บาท
รสชาติดีเลย แล้วน่าจะขายมานานมากแล้วด้วย เนื่องจากลูกค้าพื้นเมือง
ค่อนข้างเยอะ  กินเสร็จแล้วตอนนี้ก็คงทำได้แค่่เดิน
เดินไปหารถเมล์ บีโม ของเชียงใหม่ ที่ราคาแค่ 15 บาท กันเถอะ

แต่เราต้องเดินไปหาถนนเส้นที่ มันจะวิ่งผ่านนี่แหละ เป็นสิ่งที่ยาก
แล้วผมก็เดินลัดเลาะมาเรืื่อยๆ แล้วก็มาเจอด่านตำรวจ
ซึ่งเขากะลังตั้งด่านออกใบสั่งกันอยู่เรย  เราก็เรยเข้าไปถาม 555
ว่าถ้าเราจะขึ้นรถบีโม จะสามารถขึ้นได้ตรงไหนบ้าง

พี่ตำรวจก็ใจดีมาก  บอกทางเราดีมากก  แต่แกก็ยังคงจับหมวกกันน็อคต่อไป
555+  ผมก็ได้มาหยุดอยู่ตรงป้ายรถเมล์ ที่พี่ตำรวจเค้าบอกมา
แต่รอนานนนนนนมากกกกก ครึ่งชั่วโมงจะโผล่มาสักคัน

แต่ในที่สุดก็โผล่มา  ผมรีบวิ่งออกไปโบก เกือบไปแล้ว
เกือบไม่จอดแล้วมั๊ยล่ะ 55555
ใช่ว่าอยู่ป้ายรถเมล์แล้วเค้าจะจอดเสมอไปนะ ดีนะที่ไหวพริบยังดี



จากนั้นเราก็นั่งพักในรถที่แอร์เย็นฉ่ำไปเรื่อยๆ  เวลาของวันนี้กำลังจะหมดลงแล้วจริงๆสินะ

พอรถมาถึงไฟแดงจะเลี้ยวไปปทางสนามบิน ผมเลยขอกดลงก่อน
มาเซนทรัลแอร์พออร์ต ที่อยู่ใกล้ๆสนามบินนี่แหละ
ความจริงก็ไม่ได้ใกล้เรยยยย



ลงมาเดินเล่นหาไรกินไปเรื่อย โดยมื้อสุดท้าายก็เป็นข้าวซอย ฟ้าฮ่าม
แต่เป็นในฟู๊ดคอร์ดนะ  ก็อร่อย เลี่ยนดี 5555
กินจนอิ่มก็ดูเวลา ขึ้นเครื่องง แต่ก็มีเพื่อนโปรเจค
โทรมาตามว่าอยู่ไหนแล้วว มาช่วยทำโปรเจคเรยยย
กุยังอยู่เชียงใหม่อยู่เรย 5555+  ทั้งๆที่จะสอบอยู่วันมะรืนละ
พอได้เวลา ก็ได้เวลาเดิน ไปสนามบิน
ซึ่งไกลจัง 555+  ประมาณกิโลครึ่ง กลางแดดร้อนๆ เดินไปสิ เดินไป



ในที่สุดเราก็มาถึง ก็ไปทำการเช็คอินแล้วก็ปริ๊นบอร์ดดิ้งพาสซะ
แล้วก็ไปนั่งรอที่เกต ได้เวลา ก็ลุกไปขึ้นเครื่องจร้า
แต่อากาศที่เชียงใหม่กำำลังดีเรยล่ะ







และในที่สุดผมก็ถึงดอนเมือง  พอถึงดอนเมืองผมก็ต่อรถบัสไป bts หมอชิต เหมือนเดิม
แล้วก็นั่งBTSยาวไปลงเอกมัยเหมือนเดิม แล้วต่อรถไป บางแสน รอบเร็วที่สุดจร้า
สรุปไปถึงชลบุรีประมาณ 6 โมง เย็น แล้วก็ไปทำโปรเจคที่เรารักกัน (รึป่าว) ถุยย 555
แล้วเรื่องราวการเดินทางก็จบลงเพียงเท่านี้ 


Popular Posts

Facebook