ชีวิตเริ่ม... เมื่อเริ่ม"ใช้ชีวิต"


โพสต์แนะนำ

ยินดี ปีนัง : hello penang ep.1

สวัสดี ปีนัง             เชื่อว่าหลายๆคน คงมีความฝัน ในชีวิตของตัวเอง   อยากใช้ชีวิตในแบบของตัวเอง อยากทำในสิ่งที่ตัวเองอยากท...

วันเสาร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

ไปชิลที่วังเวียง....กับเมืองที่เป็นดั่ง สวรรค์ที่สูญหายไป EP.1


 


       สวัสดีอีกครั้ง  ครั้งนี้คือการรีวิว การเดินทางออกต่างประเทศครั้งแรก เมื่อปลาย ก.ค. ปี2017
ประเทศนี้ก็คือประเทศเพื่อนบ้านเรานี่เอง  สปป.ลาว  เป็นประเทศที่ยังคงมีความสมบูรณ์ทางธรรมชาติอยู่มาก  ยังไม่ค่อยเจริญมากเหมือนบ้านเรา  โดย destination การเดินทางครั้งนี้ของเราก็คือ วังเวียง  สปป.ลาว ที่ๆขึ้นชื่อและบอกต่อกันมากที่สุดว่า ชิล ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้รับสมญานามว่าเป็น paradise lost หรือสวรรค์ที่สูญหายไป

อื้อหือ  แค่ได้ยินชื่อเสียงเรียงนาม  ต้องบอกเลยว่าอยากไปเห็นกับตาสักครั้ง  เราเองมันก็คนชิล อยู่แล้วด้วย อยากจะรู้ว่าจะชิลกันซักแค่ไหน 

ทริปนี้
- วางแผนกันก่อนเดินทางประมาณ1เดือน
- ระยะเวลาเดินทาง 8 วัน 7 คืน
- สมาชิก 3 คน
- งบประมาณ  5,000 - 6,000 บาท
- วันเดินทาง 30 ก.ค 2017 - 6 ส.ค. 2017

รายละเอียดคร่าวๆ ประมาณนี้

โดยก่อนการเดินทาง ผมได้ทำคลิปเพื่อชวนเพื่อนๆในโซเชียล โดยเอาคลิปจากยูทูปมาตัดต่อ ใส่ เพลง
เพื่อเพิ่มอรรถรส ในการเดินทางซักหน่อย  5555
ลองไปดูกันเลยยยยยยย



ก่อนวันเดินทางก็จัดสัมภาระเพื่อ ออกต่างประเทศครั้งแรก
ส่วนใหญ่ ก็จะเน้นกล้องซะส่วนใหญ่   แต่ๆๆๆ! สังเกตุที่กระเป๋าแบ็คแพ็คด้านข้าง 5555


นั่นคือไวน์จร้าาาา  เราจะนำไปจิบกันริมน้ำซอง แต่จุกไวน์ดันหายปัดโถ่ว  เลยคิดอยู่จะเอาไปดีมั๊ย
กลัวหกกลางทางอีก กว่าจะไปถึงริมแม่น้ำ 55555
เอาเข้าเอาออกอยู่หลายรอบ  คืออยากจิบก็อยาก กลัวเอาไปไม่ถึงก็จะอดกิน เห้ออออ
เอาออกก็ได้วะ ไปจิบเบยยยลาวก็ได้วะ


ได้เวลาก็เริ่มออกเดินทาง กันแต่เช้ามืดดด  ผมจะเป็นคนที่ตรงต่อเวลากับการเดินทางเสมอ ต้องไปก่อนเวลาทุกครั้ง  ไม่รู้สิ มันตื่นเต้น มันอยากจะไปให้ไวไว ไม่อยากพลาด เอาจริงๆตั้งแต่ผมเดินทางมาก็ยังไม่มีครั้งไหนที่พลาดเรื่องเวลาเลย ไม่เคยตกรถ ไม่เคยสายเลยยยยย  เพราะผมใส่ใจกับสิ่งที่ผมหลงใหลเสมอ

โดยครั้งนี้เราเลือกที่จะขึ้นรถไฟฟรี จากสถานีกบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เพื่อเข้าไปยัง กทม. ไปนัดเจอกับน้องๆอีก2 ชีวิต ที่จะมาจากชลบุรี  วิวข้างทางสวยงามเสมอ  ผมเดินทางมาได้ไม่นาน ก็มีน้องๆ นศ. มานั่งตรงข้ามผม2คน และก็มีเพื่อนน้องไปนั่งที่อื่นอีก2คน   รถไฟแล่นไปซักพัก  เพื่อนของน้องๆ ก็เดินมาแล้วบอกว่าจะเป็นลม เราเองอยู่ริมหน้าต่างพอดีเลยบอกว่า  น้องมานั่งริมหน้าต่างมั๊ย ?

เผื่อจะดีขึ้น   น้องก็ตอบค่ะ ส่วนเราก็ไปยืนนนน จร้าา
กับหนทางอีกแสนยาวไกล 2 ชม. แต่ผมเสียสละได้ เราแข็งแรงกว่าก็ต้องเสียสละเป็นธรรมดา


วิวระหว่างการเดินทาง
เมื่อเรามาถึง สถานีรถไฟหัวลำโพง ก็นะ รีบมาจังเรยยย  รถไฟออกตั้ง20.45 เป็นรถไฟฟรี อีกแล้ว!!
5555555  คือ เราจะไม่ยอมเสียเงินกันเรยใช่มั๊ย   แต่เหตุผลที่เรามาก่อนก็คือ  จะไปเดินเยาวราชเว้ยยย
ก็รอให้น้องมาถึงแล้วไปเดินเยาวราชกันนน  จุดประสงค์คือจะไปซื้อ เพ้นท์เฮนน่า มาเพ้นท์เอง
อยากมีลายสวยๆ ไปเที่ยววจร้าา   

พอน้องมาถึงบอกว่ามีแกงกะหรี่ข้างทาง เจ้าเด็ด ตั้งอยู่ เราก็พยายามเดินหากัน คือเดินถามไปเรื่อยๆ
รู้จักกันหมดเลย แต่เดินไม่ถึงซักที หลงบ้าง เป็นบางครั้ง 


ในที่สุดเราก็มาถึง คือไม่มีโต๊ะ !!  มีแต่เก้าอี้ แต่ดูคนสิ ต่อคิวกันซื้อมานั่งกินกันอย่างเอร็ดอร่อย
เราก็เดินเข้าไปสั่ง แล้วก็ไปนั่งรอ แล้วเค้าก็จะเดินมาเสิร์ฟเอง นั่งกินริมฟุตบาท โคตรได้ฟิลอ่ะบอกเรย 
อร่อยอยุ่นะ ลองไปหากินดูได้ ย่านเยาวราช  ไม่แพงแค่40บาท   




เมื่อกะลังเดินกลับก็เห็นฝรั่งกลุ่มนึงจับกลุ่มยืนถ่ายรูป ด้วยความสงสัยเลยเดินเข้าไปดู
เห็นถ่ายป้ายชื่อร้านของไทยอยู่ อะไรวะ 5555 พอไปดูใกล้ๆอ่อ ถ่ายแมวนี่เองงง
แต่ก็น่ารักดีนะ  สงสัยเจ้าของเอามากวักเงินกวักทองเข้าบ้าน  ใช้แมวจริงสิได้ผล 55555




หลังจากนั้นเราก็เดินกลับมาที่หัวลำโพง  เพื่ออาบน้ำรอเวลาขึ้นรถไฟกันนน
ผมก็เดินไปอาบเป็นคนแรก วางของกองไว้ที่กลางสถานี ให้น้องเฝ้าไว้ เอาผ้าเช็ดตัวพาดบ่าไป หอบยาสีฟันยาสระผมไป 5555 เหมือนบ้านกุเองเรยย   คนมองกันเต็ม ไอ้นี่มันชิลไปไหน

แต่พอผมเดินเข้าไปในห้องน้ำ ก็ต้องพบความจริงอันโหดร้ายว่า น้ำมันไหลแบบ5นาทีได้1ขัน
คงเข้าใจนะ  น้ำในถังเหลืออยู่ค่อนถัง ถ้าตักอาบแล้วจะได้ประมาณ ไม่ถึง5ขัน แบบเต็มๆอ่ะนะ

ผมก็ใช้สูตร 10 ขัน ของผมเอง  ใครจะเอาไปใช้ตามก็ได้นะ  เราจะอาบน้ำให้เสร็จ ทุกอย่างภายใน10ขันแบบ ไม่เต็มขันได้อย่างไร  วันนี้ผมจะมาเล่าให้ฟัง  ขันที่1ให้ราดที่หัว ต้องให้เปียกถึงตัวด้วยนะ พยามยีๆให้เปียกให้ทั่ว หลังจากนั้นราดตามไปอีก1ขัน เพื่อให้ตัวชุ่ม จากนั้น ให้สระผม กับ ถูสบู่ และล้างหน้า พร้อมกันน !! ย้ำ ว่าต้องพร้อมกันนะ ไม่งั้นคุณอาจงานเข้า

เมื่อทำอะไรเสร็จแล้วก็ ราดน้ำให้ราดตั้งแต่หัว ให้มันชโลมล้างทุกอย่างได้ในครั้งเดียว อีก3ขัน ย้ำ3ขันเท่านั้น ต้องสะอาด  เหลือแปรงฟัน 1ขัน เอาไว้บ้วนปาก2-3ขัน เป็นอันจบภารกิจ 5555
ลองดู ผมทำมาแล้ว 



หลังจากที่อาบน้ำเสร็จ สดชื่น ก็มานอนเล่นอยู่ตรงกลางสถานีเรย  มีทีวี มีแอร์เย็นๆอย่างชิล กะลังจะหลับ ยามมาไล่ 5555 บอกว่านอนไม่ได้นะๆ 5555 โถ่ว  กะลังชิล เรย


หลังจากได้เวลา เราก็เริ่มลุยกันเลยย  ตื่นเต้นที่จากในจอเราจะได้เห็นของจริงกันซักที
ตอนนี้บอกเรยว่าใจผม ไปอยู่ที่วังเวียงเรียยบร้อยแล้ววววว

เวลา20.45 เราก็ก้าวเท้าขึ้นรถไฟขบวน กรุงเทพ - หนองคาย ฟรี!!! เพื่อที่จะไปต่อรถข้ามแดนที่สะพานมิตรภาพ  กำหนดการรถไฟจะถึงหนองคายประมาณ 10โมงเช้า เอาล่ะ ได้เวลาขึ้นรถไฟขบวนแห่งความฝันละ  เมื่อขึ้นไปถึง ก็คุยกันถึงแพลนว่าเราจะไปไหนกันบ้าง แล้วก็นอน ตื่นมาอีกที ก็6โมงเช้า แสงแรกก็ขึ้นมาให้เราได้ ยลโฉมความสวยงาม เราดูแสงแรกยามเช้ากันที่จังหวัด ขอนแก่น

แสงแรก ที่ ขอนแก่น
ถือว่าสวยงามมากๆ กับแสงแรกในยามเช้า เวลาเราเดินทางอย่าไปคิดอะไรมาก  ปล่อยใจให้มันเป็นไปตามเรื่องราว ให้เราคิดว่าเราเป็นเพียงตัวละคร1ตัว ในหนัง1เรื่อง หนัง1เรื่องก็คือทริป1ทริป ที่เราต้องดำเนินเรื่องไปจนจบ  ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมมีตอนจบ  แน่นอนว่าเราจะสร้างเรื่องราวของเราให้มันสวยงามยังไง มันก็อยู่ที่เราและองค์ประกอบโดยรอบด้วย  วันใหม่กับการเดินทางที่แสนยาวไกล ช่างเป็นอะไรที่น่าประทับใจเหลือเกิน


ต้องบอกก่อนว่ารถไฟสายนี้ หรือสายอีสาน สวยงามกว่าทุกสายที่ผมเคยขึ้นมาเลยยย
สวยกว่าสายเหนือและสายใต้ เฉพาะในมุมมองของผมนะ
หลังจากเช้าได้ไม่นาน ตอนนี้เรากะลังจะเข้าสู่ จ.หนองคาย  ซึ่งเรายังไม่เสียเงินซักบาทในการเดินทางครั้งนี้  อาจจะเสียค่าอาหาร ไปบ้าง แต่ค่าเดินทางของเรายังคงเป็น 0 อยู่



สถานีรถไฟหนองคาย

จากนั้นไม่นาน เราก็มาถึงสถานีรถไฟหนองคาย ปลายทางสุดสายของเรา
ล้างหน้า แปรงฟัน เตรียมตัวมุ่งสู่ สปป.ลาว  โดยเราจะเดินหรือนั่งรถตุ๊กๆไปที่ ตม.ฝั่งไทยก็ได้นะครับ ระยะทางประมาณ 2 กม.  ถ้าเป็นผมคนเดียวเลือกเดินนะ แต่พอมากับน้องอีก2คน ก็ช่วยกันหาร ค่าตุ๊กๆ ก็ถูกดีคนละ20บาท
ตม.ฝั่งไทย

หลังจากนั้นก็เขียนใบขาเข้าและออกประเทศไทยให้เรียบร้อยแล้วก็เดินเข้าไปด้านใน ก็จะมีบริการรถเมล์ข้ามแดน หรือคุณจะเดินก็ได้ แต่ก็ไกลอยู่ แนะนำให้ขึ้นดีกว่า เงินไทยก็ประมาณ15บาท






































พอไปถึง ตม.ฝั่ง ลาว ก็เขียนใบขาเข้าและออกเหมือนกันและเก็บใบขาออกไว้อย่าให้หาย
ก็เป็นอันเสร็จ  ในระหว่างที่คุณมาถึงก็จะมีพวกแท็กซี่ที่พยายามจะชักชวนเหมารถเพื่อเข้าตัวเมืองเวียงจันทน์ เราก็ถามว่าเท่าไหร่ เรามา3คน เค้าบอกคิดคนละ100 ก็บายละจร้าาา 55555

ออกจาก ตม.ลาว มาก็มุ่งหน้า ไปขึ้นรถบัสlocalที่พร้อมจะเข้าตัวเมืองเวียงจันทน์
พอเดินไปถึงรถ เราถามกี่บาท เค้าบอกมา12000 กีบ

ชิบหายยยยยย!!! ลืมแลกเงิน 5555 เดินกลับไปแลกเงินที่ ตม.อีก ลืมสนิท ไปแลกมาก็ได้จับเงินล้านซะที  อย่างที่คนอื่นเค้าก็พูดๆกัน

เงินกีบ
ในระหว่างที่เราไปขึ้นรถ เราก็งงๆ กับการใช้เงิน 555 เพราะที่นี่เงินเค้าแบบ มีแบงค์2000แบงค์1000
แบงค์5000 ก็ใช้กันแบบ งงๆ บางใบก็สีเหมือนกัน  จนกระเป๋ารถเมล์ต้องช่วยดึงออกให้
แล้วก็เจอน้องคนไทย กลับบ้านมา สปป.ลาว งง น้องไปเรียนเมืองไทยแต่บ้านอยู่ ลาว แต่ก็เป็นคนไทย
งงในงง มั๊ยล่ะ  ก็เรยคุยกัน ว่าที่นี่เบียร์อะไรเด็ด 5555  เค้าบอกที่นี่มียี่ห้อเดียว เหมือนผูกขาดธุรกิจไรสักอย่าง ที่นี่สนับสนุนเบียร์ลาวมากๆ ทุกตู้เย็นที่มีการขายน้ำ แม่งมีเบยยยลาวทุกตู้  ไม่เหมือนบ้านเรา
ที่ตู้ไหนมีเบียร์ คือมึงต้องเสียภาษีขายเหล้าขายเบียร์

ที่นี่เด็กกินได้หมด ไม่มีกฏหมายว่าห้ามขายให้เด็ก หรืออะไรเหมือนบ้านเรา ที่นี่เด็ก13-14 กินเบียร์เป็นเรื่องปกติกันเลยล่ะ   555  แค่วัฒนธรรมก็ต่างจากบ้านเราแล้ว

เมื่อมาถึงเวียงจันทน์ ข้าวมื้อแรกของวัน ตั้งใจไปกิน เฝอ นั่นเอง นี่เพิ่งจะบ่ายโมง แต่พวกเราก็ซัดเบยยยลาวกันทันที  กลางวันแจ้งๆนี่ล่ะ  555555 น้องบอกใจเย็นๆพี่ อีกตั้งหลายวัน เราจะเมาปลิ้นกันวันนี้วันเดียวไม่ได้นะ 555555    แหม่ ก็อยากลองของเด็ด ที่นี่ นี่นา
เบียร์ที่นี่ถูกมาก แล้วขายกันแบบคนละราคาเรย บางร้าน20บาท บางร้าน25 บางร้าน30 ที่นี่มีกระป๋องเล็กกระป๋องใหญ่ ขวดเล็กและใหญ่   กินแบบขวดเล็กได้อารมณ์สุด ผมบอกเลยย  เบียร์ถูกกว่าบ้านเราเยอะมากกกก เพราะฉะนั้นต้องจัดดดดด  ผมเกริ่นให้ก่อนว่า ผมมาลาว7วัน ไม่มีวันไหนที่ไม่กินเบียร์เลย
แวะซื้อตลอด ไม่สนว่ากลางวันหรือกลางคืน 55555555 ชิลจัดดดด





มาถึงเวียงจันทน์สิ่งที่คุณต้องเจอแน่ๆ คือคนขับรถ ที่ทำตัวเหมือนคุณเป็นดาราฮอลลีวูด
 เราเลยถามราคาว่าไปโรงแรมที่เราจองไว้เท่าไหร่ เค้าบอกคนละ100 เอาอีกแล้ว  เราบอกไม่ไป เค้าบอก3คน200ก็ได้ เราก็ไม่ไปอีก  เพราะคิดว่ายังไงก็แพง ทีนี้เค้าบอก3คน 100 เราก็คิดกันอยู่พักนึง
หันไปบอกเค้าเรยว่า ไม่ 5555555  ขนาดเค้าลดขนาดนี้แล้วมึงยังไม่ไปอีกหรอ 5555
ตกคนละแค่30กว่าบาทเอง  แต่ตอนนั้นรู้สึกว่าแพงมากก


จนเมื่อเราเดินไปหาโรงแรมเอง ทุกคนแม่งพูดเป็นเสียงเดียวกันเลยว่า  เราน่าจะจ้างพี่เค้าเนอะ
เชี่ย!! เดินประมาณ 3-4กิโล กลางแดดร้อนๆ  เป็นไง งก จนได้เรื่อง งก ไม่เข้าท่า




เมื่อมาถึงที่พักแล้ว เราต้องการไปว่ายน้ำอย่างด่วน คือที่พักเราวันนี้มีสระว่ายน้ำด้วยนะ แต่อยู่คนละที่กับที่พัก เพื่อความชิล ซื้อเบียร์ไปจิบกันอีกแล้ว 55555555




ดูกันเอาละกันว่า มีความสุขและชิล กันแค่ไหน  เล่นน้ำคลายร้อนกัน เห็นฝรั่งไปนอนอาบแดดกัน บางคนก็มานั่งอ่านหนังสือริมสระน้ำ เชี่ย อย่างชิล กุเอาบ้าง 

ไปเลยจร้า นอนกลางแดด  เชี่ยยย อย่างร้อน นอนไปได้ไงวะ  โดดลงสระแทบไม่ทัน
และที่นี่เองทำให้เรารู้จักกับไซม่อน ซึ่งเป็นชาวเยอรมัน เค้าก็คุยง่ายนะ ดูใจดีด้วย ถ้าจำไม่ผิดเค้ามาจากมิวนิค  เค้าถามผมว่าที่มือนั้นคืออะไร  เราบอกว่ามันคือศิลปะ ของญี่ปุ่น  แล้วที่แขนล่ะ เราก็บอกว่า
เป็นนาฬิกาศิลปะ ของญี่ปุ่นอีกเช่นกัน  เค้าเลยถามว่า ทำให้เค้าบ้างได้มั๊ยยย
เราก็หัวเราะๆ  55555555  เค้าก็ชวนพวกเรามาดื่มกันตอนเย็นหน้าที่พัก  จะมีมีตติง ปาร์ตี้

เราก็เอาวะ ตกลงกันว่า สุดท้ายค่อยมาแดกกกับไซม่อนก็ได้วะ

หลังจากเราอาบน้ำเสร็จ เราก็เช่าจักรยานปั่น ในราคา40บาท ได้24ชั่วโมง




จากนั้นเราก็ปั่นกันเข้าไปในตัวเมือง เวียงจันทน์ ที่ๆเราไปก็คือ ประตูไซ หรือประตูชัยจร้าาา
สวยงามตามแบบฉบับ สถาปัตยกรรมสไตล์ฝรั่งเศษ ถือว่า คุ้มค่าที่ปั่นมา  ลืมบอกว่าปัญหาของเราตอนนี้คือ การปั่นผิดเลน 55555 ที่นี่ขับรถด้านขวากัน  ชอบลืมตลอดเรย  เวลาเลี้ยวหรือเวลาจะออกตัว ชอบลืมเลน  บางทีเลี้ยวตัดเลนเหมือนเมืองไทยก็มี  คือมันลืมมมและมันชิน

ประตูไซ

หลังจากชื่นชมประตูอยู่นาน คิดอยู่ว่าเราจะไปพระธาตุหลวงดีมั๊ย แต่นี่มันก็เย็นมากแล้ว แล้วก็ปั่นไปค่อนข้างไกล เราจึงเปลี่ยนไปชิล กันที่ริมแม่น้ำโขงกันดีกว่า  ที่นี่บอกเลยว่าค่อนข้างสวยงาม ได้เห็นผู้คนยามเย็นออกมาทำกิจกรรมกันเยอะแยะเรย อีกอย่าง อีกฟากฝั่งก็คือบ้านของเรานั่นเอง



และนี่คือที่สักการะของชาว สปป.ลาว เค้าเรยล่ะ ถ้าใครเคยดู TT rider พี่เรย์ เคยขี่สามล้อมาที่นี่ด้วย ที่พายุเข้านั่นแหละ   สาวลาวที่นี่ เอาจริงๆไม่เหมือนที่ผมคิดไว้เลย ผมว่าบางทีน่ารักกว่าคนไทยด้วยซ้ำ
นุ่งผ้าซิ่น ผิวขาว  ตามความเข้าใจของเราคือ ชอบเข้าใจว่าผิวจะคล้ำกว่าเรา แต่ความเป็นจริง
ผญ.ลาว น่ารักนะ ทั้งนิสัย การพูดจา ผิว หน้าตา  คือคุณต้องมาลองสัมผัสเองอ่ะ เอาเป็นว่าน่ารักดี



รู้สึกว่าผมจะลองซื้อลูกชิ้นของที่นี่มาชิม อร่อยอ่ะ แต่แอบแพง 40 บาท  คือ บางทีผมก็ไม่เข้าใจว่าของกินที่นี่ราคาแพงไปไหน แพงกว่าบ้านเราเยอะเรย  คิดถึงอาหารบ้านเราเลยล่ะ

ข้าวเปียก

ปั่นไปปั่นมา ก็เริ่มหิว แต่ลมที่นี่ดีจริงๆ บรรยากาศดีมากๆ พระอาทิตย์ตกที่นี่แสงสวยมากอ่ะ  โคตรชิลเรย  เราปั่นมาจนสุดทาง แล้วก็หาร้านอาหารดีๆนั่งริมแม่น้ำโขงนั่นแหละ  น้องผมอยากลองกินส้มตำกัน แต่ผมเองยังติดใจอยู่ ที่เมื่อกลางวันพลาดสั่งผิด ที่จริงผมนั้นอยากกินข้าวเปียก

แต่ผมดันไปสั่งเฝอ ซึ่งเฝอมันก็คือก๋วยเตี๋ยวเหมือนบ้านเรานั่นแหละ แต่ที่นี่ใส่มะเขือเทศด้วย แล้วก็มีผักแกล้มพริกสดแตงกวา อะไรพวกนี้   เย็นนี้เลยขอแก้มือ สั่งข้าวเปียกมา1ชาม 40บาท ก็อร่อยดีนะ
แต่ก็ไม่ถึงกับอร่อยมาก  หลังจากกินกันเสร็จสรรพก็ปั่นกลับที่พักของเรา  เอาจักรยานไปคืน และนี่เองคือตอนที่ผมลืมเสื้อยีนส์อยู่ในตระกร้าหน้ารถจักรยาน  เจ็บใจมาก ไปรู้ตัวอีกทีตอนอยู่วังเวียงแล้ว
แม่งเอ๊ยยยยยย เสียดายเว้ยยยย เสื้อตัวเก่งเรยย

หลังจากคืนรถกันก็กลับมาที่พักของเรา เห็นฝรั่งจับกลุ่มกันกลุ่มใหญ่มาก คุยกันอยู่ แต่ยังไม่เห็นไซม่อน
เราก็เดินเข้าไป นอนเล่น โทรศัพท์ วางแผนว่าพรุ่งนี้เราจะทำอะไร จะไปวังเวียงยังไง
ผมก็หิวน้ำ เลยเดินออกไปซื้อน้ำ แต่ๆๆ แต่คราวนี้เจอไซม่อน ที่กะลังเมาแบบรั่วชิบหาย5555555555

เชี่ยยย เมื่อกลางวันมึงยังติ๋มอยู่เลย 55555 ผมพยายามหลบหน้าทันที เพื่อไม่ให้จำเราได้
ขืนชวนกุเข้าไปกลางวง มันจะรั่วกันไปใหญ่ 5555555

breakfast
ตื่นขึ้นมาตอนเช้า ล้างหน้า แปรงฟันเก็บของ (แต่กุเสือกลืมเสื้อยีนส์) แม่งเอ้ยยยย เจ็บใจ
เราก็มาสั่งชุด อาหารเช้า ที่นี่ก็มี ไข่ดาว ออมเล็ต เราก็เลือกๆเอา หน้าตาก็ประมานนี้
แต่ใครจะรู้ว่าอาหารเช้าของเราต่อไปนี้ จะเป็นแบบนี้ไปทุกมื้อ 555

จากนั้นเราก็เก็บกระเป๋าออกมา พนักงานต้อนรับที่นี่เป็นสาวชาวเวียดนามก็ถามผมเป็นภาษาอังกฤษว่า ผมจะไปไหนต่อ ผมบอกว่าจะไปวังเวียงกันต่อ  เค้าก็เลยถามว่าเราจองตั๋วไปแล้วหรอ
ผมก็บอกว่ายัง กะลังจะออกไปขึ้นท่ารถ เค้าเลยบอกว่าที่นี่ก็ขายตั๋วรถเหมือนกัน
ผมเลยขอดู  พอดูราคาแม่งเท่ากันกะที่จะไปท่ารถเลย   เค้าถามว่า ง่ายกว่ามั๊ยถ้าคุณจะจองที่นี่เลย

โอ้โห ผมนี่ลืมสนิทเลย ว่าที่นี่ขายทัวร์ด้วย มันก็ต้องมีticketอยู่แล้ว  อันนี้พลาดจริงแต่ดีนะที่พนักงานใจดีถามเราซะก่อน 555555  เป็นความโชคดีของเรา
จากนั้นเราก็ซื้อตั๋วรถและคอยอยู่ที่พักนั่นแหละ รอรถมารับเราไปวังเวียง เรากะลังจะเปลี่ยนเมืองกันแล้ว





ที่นี่ให้นักท่องเที่ยวฝากความทรงจำไว้ได้ ผมก็ฝากไว้เรียบร้อย ใครไปก็ไปหาเอา ผมไล่ดูมีอันนึงเป็นคนไทยเขียนไว้ แม่งโคตรได้อ่ะบอกเลย  ดูกันเอาเองนะ

รถมารับแล้วเราก็ออกเดินทางกัน มีเรา3คนเป็นคนไทย นอกนั้นฝรั่งทั้งรถ พวกเรากำลังจะมุ่งหน้าสู่เมืองที่ชิลที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กันแล้ววววววววววววว
ติดตามตอนต่อไปได้ ใน ep2 นนะครับบบบ รับรองความมันส์แน่นอนนน





















Popular Posts

Facebook