ชีวิตเริ่ม... เมื่อเริ่ม"ใช้ชีวิต"


โพสต์แนะนำ

ยินดี ปีนัง : hello penang ep.1

สวัสดี ปีนัง             เชื่อว่าหลายๆคน คงมีความฝัน ในชีวิตของตัวเอง   อยากใช้ชีวิตในแบบของตัวเอง อยากทำในสิ่งที่ตัวเองอยากท...

วันพุธที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

BALI On My Way EP.2


เช้าวันนี้  แพลนเราคือย้ายเมืองไป KUTA  เพราะใกล้สนามบินและใกล้ เกาะซานัว
ท่าเรือที่เราจะต่อไป ยังเกาะนูซา เปอนิดา ในวันพรุ่งนี้ 

วันนี้เราจึงอยากเที่ยวในอูบุด ก่อนในช่วงเช้า แล้วบ่าย move ไป คูต้า
โอเค พอได้แผนตามนี้  อันดับแรก ขอขึ้นไปกินอาหารเช้าด้านบนก่อนล่ะกันนะ โดยเมื่อวานนี้เราได้บอกกับพนักงานว่า ขอเป็นออมเล็ต ไปกินด้านบน เวลาเดิม  ที่นี่เป็นรีสอร์ทที่เซอวิสแขกดีจิงๆ พอเราขึ้นไปถึงก็มีอาหารเช้าวางรออยู่แล้ว เพียงแค่บอกเลขห้อง  ตอนเช้าๆแบบนี้ได้มาสูดอากาศบนนี้ก็ไม่เลว แต่ตอนนี้สิ่งที่ผมสนใจมันไม่ใช่อาหารเช้าน่ะสิ มันเป็นสระว่ายน้ำ ที่โคตรใส แน่นอนว่าเรามาถึงแล้ว จะไม่ลงสระน้ำก็กะไรอยู่  เราจะขอเดินถ่ายบรรยากาศไปรอบๆ จนหนำใจแล้วไปกินอาหารเช้ากัน    



อาหารเช้าที่นี่ ออมเล็ตเค้าให้เยอะจัง เสิร์ฟพร้อมผลไม้ และชากาแฟเหมือนเดิม ที่เพิ่มเติมคือนักเก็ตและไก่ทอดเมื่อวาน ที่แทบไม่ได้กินเลย  แต่ยังอร่อยอยยู่นะ  ถ้าใครมาอูบุด แนะนำให้มาพักที่นี่นะครับ 

 

ตอนนี้เรากินอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อย เตรียมตัวไปเปลี่ยนชุด ลงเล่นน้ำ  สระว่ายน้ำที่นี่ถึงแม้จะเล็กๆ แต่ลึกใช้ได้ ตอนแรกคิดว่าแค่เอง หรืออก นี่ล่อไปถึงคอ 5555 น้ำก็เย็นดีจัง  เราใช้เวลาอยู่ในสระประมาณ 40 นาทีได้  ตอนนั้นแค่ได้ใช้ชีวิตในแบบของตัวเองก็พอละ  เล่นเสร็จลงไปอาบน้ำแต่งตัวเก็บของ ฝากกระเป๋า เช็คเอาท์  ราคาจ่าย 2 คืน 760000 รูเปีย ตอนนี้เป็นเวลา 11.00 แล้ว  ที่แรกที่เราจะไป คือ MONKEY FORREST  คือ เป็นป่าคล้ายๆสวนสัตว์ที่มีลิง อยู่ใจกลางอูบุด  



ค่าเข้าที่นี่ คนละ 80000 รูเปีย แพงใช้ได้ แต่แนะนำให้มีเวลาครึ่งวันสำหรับที่นี่ไปเรย เพราะป่าค่อนข้างใหญ่  มีเวลาเล่นกับลิง เดินให้ทั่วๆ เพราะราคาที่เราจ่ายค่อนข้างแพง   มีบางช่วงสวยมากกก ตอนที่ลงบันไดมา เหมือนหลุดเข้ามาอีกโลกนึง  ถ้าใครมีโอกาสแนะนำที่นี่เหมือนกัน




ที่นี่ลิงไม่ดุนะ แต่มึน มีฝรั่งคู่นึงเหมือนกะลังถ่ายคลิปอยู่ มีไมค์แยกต่อออกมา โดนลิงกระโดดแย่งไปเลย มันคงคิดว่าเป็นอาหารมั๊ง แล้วผู้ชายจะแย่งคืนให้ มันทำท่าจะกัด ก็ต้องยอมให้มันเอาไป  แต่พนักงานเค้าก็ตามให้อยู่นะ ตามเอาคืนจนได้  เก่งมาก  จิงๆแล้วกฏเค้าบอกไว้อยู่แล้วว่า ถ้าลิงแย่งของไป ทางบริษัทไม่รับผิดชอบ   แต่พนักงานก็ตามเอาคืนให้  คนที่นี่ค่อนข้างต้อนรับนักท่องเที่ยวดี








พอเดินมาเรื่อยๆ เราจะเจอวัดที่เค้าทำพิธีกรรมอยู่ด้านใน นักท่องเที่ยวถ่ายภาพจากด้านนอกได้  แต่เดินเข้าไปไม่ได้  ตอนแรกเห็นวัวผูกอยู่ คิดว่าเค้าเลี้ยงในนี้ด้วยหรอ ป่าวว เค้าเอามาทำพิธี
ลากแพะมา  แพะยังร้องอยู่เรย   เหมือนจะรู้ชะตา เราเห็นก็หดหู่นะ แต่นั่นมันคือความเชื่อของเขา ก็คงเหมือน หมู ไก่ วัว ที่เรากินนั่นแหละ แค่เราไม่ได้เห็นเค้าทำสดๆแค่นั้นเอง ความจริงมันคงจะไม่ต่างกัน










ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายละ  เราเดินกันในนี้ 2 ชม.กว่า  ตอนแรกจะไปน้ำตก Tibumana แต่คิดว่าคงจะไม่ทัน ก็เรยเที่ยววัดแถวนี้อีกซักวัด  วัดสุรัสวตี  เชื่อมั๊ยว่าหาวัดไม่เจอมาตาาม จีพีเอสแล้วก็หาไม่เจอ ที่ไหนได้ จอดอยู่ข้างกำแพงวัด 55555    ตอนแรกจะถอดใจละ   



ถ้าเอาความจริง ดอกบัวต้องบานนะ นี่เหี่ยวเฉา 5555 มาผิดฤดูจริงๆ แต่วัดที่นี่ค่่อนข้างร้อนในตอนกลางวันพอสมควร แนะนำเป็นเช้าหรือเย็นจะดีกว่า  ถ่ายรูปก็อาจจะย้อนแสงหน่อยๆ ถ้ามาตอนนี้ เราใช้เวลากันที่วัดนี้ เกือบ ชั่วโมงเหมือนกัน  แต่ดีที่ไม่เสียค่าเข้า  อาจจะเป็นวัดแรกเลยที่ไม่เสีย   ผมว่าวัดที่ไม่ได้ดังมาก ค่าเข้าน่าจะไม่มี แถมได้ความเป็นโลคอลอีกด้วยย  แต่อาจจะต้องมีเวลามากหน่อย




เรารีบไปเอากระเป๋า ย้ายเมืองไปคูตาดีกว่า ระยะทาง ประมาณ เกือบ 40 กิโล ใช้เวลา ชั่วโมงกว่าๆ
ถ้าใคร move บ่อย ก็จะเสียเวลาไปกับการเดินทางนานจิงๆ  พอเราออกมาจากอูบุด เราจะเห็นได้ถึงความแตกต่างระหว่าง อูบุด และ คูต้า  คือ คูตาเป็นเมืองมีตึกเยอะแยะ แต่อูบุดเป็นเมืองที่อยู่ในป่า อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ  ถ้าชอบป่า หรือชอบสีเขียว มาอูบุดไม่ผิดหวัง แต่ถ้าชอบทะเล สังสรรค์ ปาร์ตี้ เล่นเซิฟ   ก็คูต้าเรยยย  ไม่ผิดหวังเหมือนกัน เพราะคลื่นที่นี่ดีจริงๆ  ใครตอบคลื่นโทรศัพ ตบหูหลุดเรย 555



โดยเราเอาของมาเก็บที่พัก เช็คอินกันก่อน ก่อนที่จะไปหาดคูต้า ที่พักของเราชื่อว่า kayun hostel  ใครอ่านขย้อนจะตบปากให้ 5555 เพราะตอนแรกผมเองก็เรียกแบบนั้นเหมือนกัน  โรงแรมเชี่ยไรเนี่ย ชื่อ ขย้อน  เห้ออออ   ปวดหัวกับตัวเอง  ที่พักเรามีสระว่ายน้ำอีกแล้ววว แต่ไม่มีเวลาเล่น  เอาของเก็บที่ห้องแล้วก็เปลี่ยนชุดตรีมทะเล ไปหาดคูต้ากันน 


เมื่อเรามาถึงหาดคูต้า ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่พัก ประมาณ 1 กิโล   อย่าบอกว่า 1 กิโลกรัมนะ กุขี้เกียจแก้ละ   เราก็จะเจอ รถขายก๋วยเตี๋ยววว  จะบ้าหราาา   เจอทะเลสิ  มาทะเลก็ต้องเจอทะเล เพียงแต่มีรถก๋วยเตี๋ยวจอดอยู่แถวนั้น  เหมือนเดิม เหตุการณ์เดิมๆ คือ กินแค่มื้อเช้ามา  เพราะฉะนั้น เราต้องกินอีกมื้อ  จริงๆแล้วมันคือก๋วยเตี๋ยวนั่นแหลละ เป็นอาหารโลคอลบ้านเค้า เราอยากลองบ้าง เรยสั่งมากิน แอบแพงอยู่นะ ถ้วยนี้ 30000 รูเปียเรย  แต่รสชาติดีนะ ที่เราสั่งมาเป็นเนื้อไก่ จะมีพริกแดงๆ พอกินรวมๆกัน เออ อร่อยดี


ไม่รู้เรียกว่าอะไรเหมือนกัน แต่ก็กินจนหมดชามมม ลูกชิ้นดีมากกก พอกินเสร็จ ก็เดินลงหาด แล้วก็ติดต่อเล่นเซิฟร์เรย สนนราคา 250000 รูเปีย เงินไทย ก็ประมาณ 575 บาท  เค้าจะสอนเรา 2 ชม.  โดยสอน 15 นาทีบนบก  และพาเราลงทะเล ให้เราเข้าใจกระบวนการท่าทาง ต่างๆ





จากนั้นจะพาเราลงทะเลจริงๆ โดยเค้าจะให้เรานอนบนบอร์ด หันบอร์ดให้ โดยที่ให้เราหัดยืนรู้จังหวะให้ได้ก่อน  ผมบอกตรงนี้เรยว่า ที่ยากไม่ใช่การยืนให้ได้ แต่ที่ยาก คือต้องจับคลื่นให้ได้มากกว่า คลื่นทุกลูกไม่ได้จะทำให้บอร์ดมันเคลื่อนไปได้นะ นั่นแหละที่มันอเมซิ่ง   พอครบ 1 ชม. เค้าจะปล่อยให้เราเล่นเอง โดยห้ามออกไปไกล แต่ตอนนั้นคือหมดแรง ลุกยืนไม่ไหวแล้ว ใครอยากเล่นเซิฟ ให้ซ้อมวิดพื้นซักร้อยครั้งมาก่อน แล้วการเล่นเซิฟจะง่ายสำหรับคุณมากๆ




คือเหนื่อยมากนะ การเล่นเซิฟ คนที่เล่นแรกๆ ต้องล้ม เป็นสิบๆครั้ง แต่พอยืนได้เราจะรู้สึกว่า เออ เราก็ทำได้นี่หว่าา  ผมจำได้ว่า ผมเริ่มยืนได้ ประมาณ ครั้งที่ 5  คือเราต้องฟังคนสอนเรา เพราะเค้าจะรู้ว่าที่เรายืนไม่ได้เพราะอะไร ไม่ย่อเข้า ลุกช้า หรือลุกเร็วเกินไป  มันเป็นกีฬาที่สนุก แต่ก็เหนื่อยสัสๆ

ผมพลาดไปครั้งนึง คือ เผลอไปหันข้างบอร์ดออกทะเล แล้วคลื่นมาพอดี คลื่นพัดบอร์ดมากระแทกหน้าและหน้าอกเต็มๆ ช้ำทันทีเรยจร้าาา ลองไปเล่นดูนะสนุกดี คือ มันมีทักษะอะไรเยอะมาก  เราถามว่าทำไมคนอื่นเล่นบอร์ดเล็กล่ะ ทำไมเราได้เล่นบอร์ดใหญ่ มันเหนื่อยที่ต้องลากไปกลางทะเลนะ
เค้าบอกว่า ยูว ยังมือใหม่ ส่วนพวกเค้า เทินโปรแล้ว ถึงเล่นบอร์ดเล็กได้  แต่พูดจริงนะ บอร์ดใหญ่แค่ลากก็หมดแรงละ แต่เราจะทรงตัวได้ ทุกอย่างต้องค่อยเป็นค่อยไป ตอนนี้ติดใจมาก  กลับไทยไปว่าจะไปหาเล่นที่ภูเก็ตอยู่





กว่าจะเล่นเสร็จ ก็ 6 โมงเย็นละ พระอาทิตย์ตกสวยมากที่นี่  เลยขอนั่งพักจิบเบียร์ไปเลยละกัน


เชียสสส ให้กับบรรยากาศที่อยู่ตรงหน้า 


พนักงานที่อยู่หาด ก็บอกว่าเค้าชอบประเทศไทยมาก  ชอบ บัวขาว  เพราะเค้าชอบ มวยไทยย  นี่มวยไทยดังไปทุกประเทศเรยสินะ เค้าก็อยากมาเที่ยวเมืองไทย 3 เดือน เรยถามเรื่องค่่าครองชีพ ค่าเช่าบ้าน  พอบอกไป เค้าบอกว่าถูกๆ  เค้าจะมาเที่ยวประเทศไทย มาค่ายมวย 55555  ก็มีการแอดเฟซบุคกันเก็บไว้ ก่อนที่จะเซย์ กู๊ดบาย  เราก็ขับมอไซค์ไปหาไรกิน  ไปเจอร้านในซอยย ดูแล้วน่าจะมีของอร่อย
เรยแวะเข้าไปสั่งกินดู ปรากฏว่าอร่อยทุกอย่าง  ไก่ ซาเต๊ะ 25000 ข้าวผัด 30000 และก๋วยเตี๋ยว 35000
ส่วนเบียร์ ขวดละ 25000 รสมะนาว อร่อยนะ  ไปหากินดู


ระหว่างกินอยู่ ก็เห็น ร้านตรงข้ามเอาเครื่องเซ่นบูชาออกมาวางหน้าร้าน



พอกลับมาที่พัก มีร้านขายอาหารอยู่ข้างหน้าที่พัก เรยออกไปปนั่งสั่งเบียร์สั่งอาหารมากินอีก
เบียร์ที่นี่ขวดละ 20000 ไก่ราดซอส 22000  ผัดมาม่า 22000 ราคาไม่แพงมากก



หลังจากกินอะไรเรียบร้อยก็เข้าที่พัก นอนจร้า ตอนนี้เป็นเวลา 4 ทุ่ม
พรุ่งนี้ต้องเดินทางแต่เช้า ต้องตื่นแต่ตี 5 เพราะจองเรือที่จะข้ามไปเกาะ นูซาไว้  7 โมงครึ่ง


---------------------------------


เช้าวันนี้เรารีบ อาบน้ำแต่งตัว เก็บของเช็คเอาท์กันตั้งแต่ตี 5 กว่าจะได้ ออกก็ประมาณ 6 โมงกว่า แล้วฝากกระเป๋าเอาไว้ที่นั่นเรย ตอนเย็นจะกลับมาเอา  โดยที่เราจะขับมอไซค์ไป ท่าเรือ ซานัว ซึ่งอยู่ห่างจาก ที่พักประมาณ 18 กิโลเมตร แต่ตอนเช้ารถไม่ติด ทำให้เราทำเวลาได้ดี แค่ครึ่ง ชม.ก็ถึงแล้ววว


จากนั้นเราก็นั่งรอ ที่ร้านอาหาร ananda resort รอพนักงานเรือมารับ ในระหว่างนั้นมีคนขายตั๋วมาเสนอขายตั๋วให้ในราคา 500000 รูเปีย ไป-กลับ 2 คน เพราะเราจองอีกบริษัทไว้ 600000 รูเปีย  แต่เพราะได้นัดเค้าไว้แล้ว ไม่อยากให้เสียคำพูด ก็เรยปฏิเสธไป  แนะนำให้จองมาก่อน หรือมาซื้อทัวร์ที่พักก็ได้
แต่ผมไม่ได้ซื้อทัวร์ ผมเลือกไปเอง  ถ้ามาซื้อตั๋วเรือหน้างาน คนละ 400000 ไป-กลับ  แนะนำให้จองมาก่อน ชื่อเว็บ penida island จะได้ตั๋วไป-กลับ แค่ 300000 รูเปีย ต่อคน หรือประมาณ700 บาท

ระหว่างรอก็สั่งอาหาร ข้าวผัด 2 นมสด 1 กาแฟ 1 จ่ายไป 95000 รูเปียยย  พอ 7โมงครึ่ง ก็มีพนักงานเข้ามาเช็คชื่อ มาพาไปขึ้นเรือ  



เรือใช้เวลา ประมาณ 45 นาที ก็ถึงเกาะนูซา เปอนีดา แต่เราไม่ได้มากะทัวร์ ทำให้เราเคว้ง 
ก็มีคนเข้ามาถามว่าเรามีคนขับรึยัง เราบอกยังเท่านั้นแหละ  ตามตื๊อเรยจร้าาาา  จริงๆบนเกาะนี้เช่ามอไซค์ 100000รูเปีย เช่าได้ 1 วัน  แต่ถ้าเช่ารถพร้อมคนขับ พาไป4 จุด ต่อได้ 500000 รูเปีย
ผมแนะนำแบบนี้ ถ้ามา4-5 คน โคตรคุ้ม คือไม่ต้องซื้อทัวร์ มาซื้อฝั่งนี้เอา จะถูกมาก เพราะรถเค้านั่งได้ ถึง 6 คน แต่เรามากัน 2 คน  รถนี้โคตร private เรยล่ะ   ก็ตกลงที่500000 รูเปีย  รถดี แอร์เย็น แถมคนขับตามเราไปถ่ายรูปในทุกที่ให้อีก  ต่อคิวถ่ายรูปแทนให้ด้วย  คือ บริการดีมากๆๆ 

จุดแรกที่พาไป คือไฮไลท์เรย  แต่ที่ไฮไลท์กว่าคือทาง  ทางแม่งเป็นหลุมแบบโหดมาก เป็นหลุมและชัน ฝุ่นเยอะ ทางแคบ ถ้าใครเช่ามอไซค์ขับ ก็ต้องทำใจหน่อยนะ ทางแบบนี้



สุดท้ายเค้าพาเราไปจนถึง ใช้เวลาเกือบ ชม. เหมือนกันนะ
จุดนี้ชื่อว่า kelingking beach มีลักษณะเหมือนไดโนเสาร์  ที่ยอดฮิตของบาหลี ที่ใครๆก็ต้องมา แต่ทางเดินแนะนำให้ระวังหน่อย ทางเดินชัน และเป็นดิน อาจลื่นได้  จริงๆมีมุมนึง เป็นมุมของสตรีเค้า เห็นผู้หญิงต่อคิวถ่ายตรงนั้นกันเต็มเลยย  แต่ผมเดินลงบันไดมาถ่าย 555







ต่อไปจุดที่ 2 ใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 30 นาที คือ broken beach และ angle belabong  2 จุดนี้จะอยู่ใกล้กัน  เดินไปหากันได้ประมาณ 5 นาที  คนขับก็ตามมาถ่ายรูปเราในทุกจุดจริงๆ ปีนต้นไม้ขึ้นไปถ่ายให้บ้าง ลัดคิวบ้าง 55555 เราแค่อยุ่เฉยๆพอ 








  

สิ่งที่เสียคือค่าจอดรถ เสียจุดละ 5000 รูเปีย ต่อคัน และเสียค่าบำรุงเกาะ คนละ 25000 รูเปีย อันนี้เสียตอนขาเข้าเกาะครั้งเดียว ใช้เวลาตรงนี้ประมาณ 1 ชม. เหมือนกัน จากนั้น คนขับพาเราไปกินข้าวก่อน 
ก่อนที่จะพาเราไปที่สุดท้าย โดยมื้อนี้เราหมด ไป 65000 รูเปีย 





กินเสร็จ ก็เดินทางกันต่อ ตอนนี้เกือบๆบ่าย 2 ละ คนขับบอก อีกประมาณ 50 นาทีจะถึงจุดหมาย
ระยะทางไม่ไกล แต่ทางมันขับเร็วไม่ได้แค่นั้นเอง  เรามาถึงประมาณ บ่าย 2.40 นาที  จุดสุดท้ายเป็นคริสตัล บีช เป็นชายหาดไว้เล่นน้ำ ดำน้ำ พายเรือ พักผ่อน   คนขับจะรับเรากลับท่าเรือ ตอนบ่าย 3 ครึ่ง
เพราะเราต้องขึ้นเรือ 4 โมงครึ่ง เราก็ตกลงตามนั้น พอเดินไปบีช  ทรายที่นี่มันเป็นคริสตัล มันสะท้อนแสง เออ สวยดี แต่แดดก็ค่อนข้างแรงงง  ไม่ได้เอาชุดมาเปลี่ยน ไม่รุจะทำไรก็เดินเล่น ซื้อเบียร์มานั่งจิบริมหาด 555











พอ 3 โมงครึ่งได้เวลา ก็เดินกลับไปที่รถ คนขับพาเราไปส่งที่ท่าเรือ พาเราไปติดต่ออะไรให้เสร็จ
น้ำใจเค้าดีมาก  งานบริการควรจะต้องเป็นแบบนี้  เรยทิป ไป 50000 รูเปีย ครับ
ก่อนแยกย้ายก็ถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก 




จากนั้น ก็ขึ้นเรือเตรียมตัวกลับขึ้นเกาะบาหลี แต่น้ำมันลงทำให้เรือใหญ่มารับที่ท่าไม่ได้ ต้องนั่งเรือเล็กออกไปถ่ายคนกันกลางทะเล ทำให้ขากลับเลทไปอีก กว่าจะได้ออก 5 โมงกว่า 
เรามาถึงฝั่งก็ประมาณ 6 โมงเย็นแล้วว  ก็ขับมอไซค์กลับที่พัก แต่ต่างจากเมื่อเช้าเรยจร้า รถเยอะมาก ติดมาก  ใช้เวลาเกือบ ชั่วโมง พอมาถึงก็นั่งเล่นที่พัก สั่งเบียร์มาจิบ ซักขวดสองขวด ก่อนขอกระเป๋า
แล้วก็ขออาบน้ำได้ด้วย  ฟรี  ตั้งแต่ไปมายังไม่มีโฮสเทลที่ไหน ไม่ให้อาบน้ำเรย ถึงแม้เราจะเช็คเอาท์แล้ว  เพราะฉะนั้น อย่ามองว่าโฮสเทลไม่ดีนะ   ข้อดีมันก็มีเยอะมากก


นี่แหละชุดขึ้นเครื่องกลับไทยของผม  โคตรชิล   พอ 3 ทุ่มครึ่งเราก็ออกไปหาไรกิน เพราะ 4ทุ่มเราต้องเอารถไปคืน ที่สนามบิน เราไปเจอร้านนึงขายเป็นมาม่าต้ม  เค้าเห็นเราเป็นต่างงชาติ เค้าพาเข้าไปปในครัวเรย ว่าเราต้องการแบบไหน แบบแห้งหรือน้ำ  เราบอกน้ำ 1 แห้ง 1 ปรากฏว่า น้ำ 2 เรยจ่ะ
สั่งซาเต๊ะร้านข้างๆอีก 1 ชุด  ราคามื้อนี้ 50000 รูเปีย



พอ 4 ทุ่ม ผมขับมาในสนามบิน  ตอนแรกเข้าช่องผิด ไปเข้าช่องทางด่วน ตำรวจออกมาบอก เข้าได้เฉพาะรถยนต์เท่านั้นๆ 555 เกือบไปละ  ย้อนกลับมา  หาทางเข้าสนามบินจนเจอ แต่ประเด็นคือ คนรับรถไม่ยอมมารับรถ  ถ้าเป็นคุณจะทำไง   ทักไปก็ไม่ตอบ โทรไปก็ไม่รับ  ผมก็เรยทิ้งรถไว้สนามบินแม่งเรยย 
กุญแจควรจะทิ้งไว้ที่รถใช่มั๊ย   ผมเอากลับประเทศด้วย 5555  ใบจอดรถ ผมก็เอากลับอีก คือทิ้งไว้แค่รถอ่ะ  ช่วยไม่ได้  ก็คุณไม่รับสาย ไม่มีความรับผิดชอบในเวลาเอง จะมาโทษว่าผมไม่ทิ้งกุญแจไว้ ไม่ทิ้งบัตรรถไว้ได้ไง  ในเมื่อมันเป็นสิ่งที่ไม่ควรอยู่กับตัวรถด้วยซ้ำ



เอาล่ะ ได้เวลาเข้าสนามบิน  สนามบินบาหลีใหญ่มาก พอๆกะสิงคโปร์เรย  หาที่แลกเงินคืนก็ไม่มี เลยลองเข้าไปในสนามบินดู หาเคาเตอร์แอร์เอเชียไม่เจอจร้า  จริงๆเคาเตอร์แอร์เอเชีย จะอยู่ชั้น 2 เคาเตอร์ E หรือ F นี่แหละ จำไม่ได้  เช็คอิน โหลดกระเป๋าเสร็จเรียบร้อย ต่อคิวปั๊ม ตม. แต่ประเทศไทยสามารถ ผ่านโดยเครื่องแสกนได้เลย แต่เรายอมต่อคิวเพื่อ จะเอาตราปั๊มจร้าาา 





อันนี้คือบัตรจอดรถที่ส่งไปให้บริษัท 555  เพราะเราอยุ่ในเกตละ ออกไปไม่ได้แล้ววว
พอผ่าน ตม. มาได้  ข้างใน หรูหราอยู่นะ  สนามบินบาหลี  เนื่องจากเหนื่อยมาก 
เราก็ไปนอนรอที่เกตเรย เราได้ขึ้นเกต 4 เหมือนขามา  แล้วก็เผลอหลับไป
จนสะดุ้งตื่น เห้ยยย นี่ได้เวลา บอร์ดดิ้งแล้ว  ทำไมไม่มีพนักงานแอร์เอเชีย
ผมเริ่มใจหายละตอนนั้น ผมเริ่มฟังที่เค้าประกาศใหม่ ปรากฏว่าย้ายไป เกตที่ 3 
ดีนะที่ตื่นมาทันเวลา  วิ่งไปที่เกตที่ 3 คนเข้าเกตไปหมดละ แต่โชคยังดีที่ยังไม่ปิดเกต
ถือว่าได้กลับบ้าน นึกว่าจะได้อยู่บาหลีต่อซะอีก 5555



สรุปค่าใช้จ่าย
- ค่าเครื่อง ไป-กลับ    2,800 บาท 
- ค่่ามอเตอร์ไซค์     1,230 บาท 
- ค่าเบียร์            4,50 บาท
- ค่าน้ำมัน              2,50 บาท
- ค่าเข้าสถานที่ต่างๆ  1,280 บาท
- อื่นๆ เช่น ซิม ประกันเดินทาง เซิฟ นวด ค่าที่จอด สโร่ง ห้องน้ำ   1,300 บาท
- อาหาร           2,100  บาท
- ที่พัก โรงแรม  2,600 บาท
- ค่าเรืือ ค่ารถรับจ้างส่วนตัว   2,645 บาท 

รวม  14,655 บาท  หาร 2    เหลือคนละ 7,328 บาท


ค่าใช้จ่ายในทริปนี้ จริงๆสามารถประหยัดได้หลายจุด  ค่าเบียร์ ค่าโรงแรม ค่ารถ ค่าประกัน
โดยรวมคือไม่อยากให้ความสำคัญกับตรงนี้มากเกินไป  มันจะกลายเป็นความทุกข์ซะเปล่าๆ
อย่างค่าที่พัก คืนละ 100 บาทก็มีนะ  จริงๆ ผมจะทำงบให้ไม่เกิน 5000 บาท ก็สามารถทำได้   สิ่งที่ผมกะลังจะบอกก็คือ  ถ้าคุณอยากจะเที่ยว อยากจะมาจริงๆ ไม่จำเป็นเรยที่จะต้องรวย หรือมีเงินเยอะๆก่อน แล้วค่อยมา   เรามีแค่ไหนก็ใช้แค่นั้น เพราะนั่นคือชีวิตของเรา 

ไม่ต้องตามคนอื่น ตามรีวิวไปซะทุกอย่าง  บางอย่างเราเอารีวิวมาปรับใช้กับทริปของเรา เทคนิคในการท่องเที่ยวถูกๆ มีเยอะมากกกกกก  ถ้ารักสายนี้จริงๆ  คุณไม่จำเป็นต้องรวย คุณก็เที่ยวรอบโลกได้
เพียงแต่คุณต้องมีประสบการณ์ในการท่องเที่ยวมากพอ  คุณก็จะไม่โดนเอาเปรียบ

เอาล่ะมาถึงตรงนี้แล้ว หวังว่าคงมีประโยชน์สำหรับคนอ่านบ้างเล็กๆน้อยๆนะครับ อย่าไปใส่ใจอะไรมาก
ใช้ชีวิตในแบบของตัวเองนั่นแหละมันดีที่สุดแล้วครับผม


--------------------------------------------------------------------------------

แล้วเจอกันซักที่บนโลกใบนี้ครับผมม







Popular Posts

Facebook