ชีวิตเริ่ม... เมื่อเริ่ม"ใช้ชีวิต"


โพสต์แนะนำ

ยินดี ปีนัง : hello penang ep.1

สวัสดี ปีนัง             เชื่อว่าหลายๆคน คงมีความฝัน ในชีวิตของตัวเอง   อยากใช้ชีวิตในแบบของตัวเอง อยากทำในสิ่งที่ตัวเองอยากท...

วันอังคารที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

เชียงใหม่... ดินแดนล้านนาแห่งความสุข กับชีวิตสุด slow life EP.3



12.12.16

มาต่อกันกับการเดินทางใน จ. เชียงใหม่
เข้าสู่วันที่ 6 ของการเดินทาง เช้านี้เราตื่นขึ้นมาสูดอากาศยามเช้ากัน
และที่นี่ก็คือขัวเหล็กซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่พักมากนัก
โดยวันนี้เรามีแผนจะไปเที่ยวม่อนแจ่มกัน




หลังจากเรากินอาหารเช้าเสร็จ ก็ตกลงกันว่าวันนี้เราจะไปม่อนแจ่ม
ซึ่งอยู่ห่างออกไปจากตัวเมืองประมาณ 40 กม.
ไปทาง อ. แม่ริม



แน่นอนว่าตลอดสองข้างทาง เรายังคงฟินและดื่มด่ำกับบรรยากาศ2 ข้างทาง
ไม่ว่าจะเป็นไร่สตรอเบอรี่ ที่มีตลอดสองข้างทาง
หรือสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ตลอดทาง มีทั้งสวนพฤกษ์ จังเกิ้ลโคสเตอร์
และชุมชนที่ยังคงไว้ซึ่งกลิ่นอายของเชียงใหม่



ในที่สุดเราก็มาถึงม่อนแจ่ม ซึ่งทางขึ้นช่วงสุดท้ายจะค่อนข้างชันนิดนึง
แต่ข้างบนมีที่จอดมอเตอร์ไซค์เยอะอยู่ แล้วก็มีไวน์เพียง
พร้อมทั้งน้ำสตรอเบอรี่ น้ำองุ่นเพียบ



มาถึงก็อย่างที่เห็น มีดอกไม้เต็มไปหมด เอาจริงๆก็ไม่ได้อินเท่าไหร่
แต่ไหนๆก็มาถึงแล้ว ก็ขอแชะภาพเก็บไว้เป็นความประทับใจแล้วกัน










จะเห็นได้จากคนด้านหลัง ที่จัดเต็มทั้งชุดและท่าโพสต์
ก็ยังไม่อินอยู่ดี แต่แค่รู้สึกตื่นตากับสถานที่ใหม่ๆแค่นั้นเอง
อากาศด้านบนดี เย็นสบาย แต่วิวไม่สวยเหมือนเชียงดาว




เอาเป็นว่ารวมๆ เหมาะสำหรับสาวๆ แต่ไม่เหมาะกับขาลุยอย่างเราๆ
แฮร่ๆ  เราจึงไม่ได้อยู่ที่นี่นานมากเท่าไหร่ ลงไปเก็บสตรอเบอรี่กินดีกว่า
แล้วก็ซื้อน้ำสตรอเบอรีกลับไปฝากเพืื่อน ที่กำลังจะกลับ กทม.กันเย็นนี้
น้ำสตรอเบอรี่ที่นี่ 3 ขวด 1 ร้อยบาท 
แล้วก็ไปกินไอติมรสสตรอเบอรี่ ทำจากสตรอเบอรี่สดๆแท้ๆกัน
โคนละ 20 บาท 


โดยสตรอเบอรี ที่นี่ผลยังโตไม่เต็มที่ เหมือนเพิ่งจะออกผล
แต่ที่สะเมิง เห็นว่าออกเต็มแล้วว


ยังไม่ค่อยมีสตรอเบอรีให้เก็บเท่าไหร่  ตอนนั้นเป็นช่วงเวลาบ่ายโมงละ
เดี๋ยวต้องกลับที่พักแล้วออกไปส่งเพื่อนที่สถานีรถไฟในตอนเย็น

หลังจากส่งเพื่อนที่สถานีรถไฟเรียบร้อย ก็พาน้องออกมากินกะหรี่หมี่เตี๋ยว
ร้านดังและร้านอร่อยของเชียงใหม่ ย่านกองบิน อร่อยมาก
ได้รสแกงกะหรี่แบบ ญี่ปุ่น ดูจากภาพก็น้ำลายไหลละ




หลังจากกินเสร็จ เราก็ไปหาน้องๆอีกครั้ง คราวนี้ พาแฝดมาด้วยยย
ไปเจอกันที่ร้านนมแล้วไปต่อที่กาดหน้ามอ ให้น้องพาเที่ยว
เลยได้สร้อยข้อมือมาเส้นนึง แล้วก็มานั่งหาไรกินแถวกาดหน้ามอต่อ
ร้านก็ถือว่าทำดีนะ แต่ไม่ค่อยมีคนซักเท่าไหร่ 




กว่าจะร่ำลากันก็ประมาณ 3-4 ทุ่มได้ละ กลับมาถ่ายรูป
ตรงขัวเหล็กอีก แสงไฟตอนกลางคืนสวยดี 
จากนั้นก็กลับที่พักซึ่งไม่ไกลจากแถวนั้น






เช้านี้ วันที่ 13.12.16
เป็นวันสุดท้ายที่เราจะได้อยู่ที่นี่ ใจหายเหมือนกันนะ เพราะนี่
คือวันที่ 7 ของการเดินทางแล้ว เราก็เลยเลือกวัดทำบุญให้ครบ 9 วัด
ในทริปนี้ จะได้เป็นสิริมงคลกับชีวิต 5555
เราก็เลยไปวัดสวนดอก ซึ่งเป็นวัดที่อยู่คู่เชียงใหม่มานานมากแล้ว
เป็นวัดสีขาว ขาวมากแสบตา





แต่ก็สวยมากเช่นกัน  ตอนนั้นคิดได้ว่าอยากจะไปคณะวิจิตรศิลป์
อยากไปดูบรรยากาศด้านในของคณะนี้ ไปถึงก็เห็นบางคนยังมาเรียน
มาทำงานกันอยู่ แต่ดูจากด้านนอกก็รู้แล้วว่าศิลป์แค่ไหน




ข้างในมีแกลลอรี ของในหลวงรัชกาลที่ 9 ด้วยย
จริงๆก็เดินเข้ามาเหมือนเราเรียนที่นี่เรยนะ แต่ป่าวเรย 555
เพราะวันนั้นไปคณะสถาปัตย์แล้ว วันนี้เรยมาวิจิตรศิลป์ดู
จริงๆอยากเรียนที่นี่นะ ย้อนเวลากลับไปได้จะเลือกเรียนคณะนีี้





พอเข้ามาข้างในก็จะมีการเพ๊นท์รูปในหลวงอยู่ด้านใน
แล้วก็มีผลงานวางโชว์ เป็นกล่องวาง อยู่ทั่วคณะ ตามสวนก็มี ทางเดินก็มี




แม้แต่สายไฟที่นี่ยังไม่เหมือนที่อื่นเรยย





แล้วผมก็มานั่งตรงฟุตบาทดูเค้าเอางานปั้นมาตากแดดกัน
เค้าคงสงสัยว่าเราเป็นใครกันวะเนี่ย เข้ามานั่งดูบ้าๆกัน 2 คน
ผมจะบอกว่า เข้ามาที่นี่ใส่รองเท้าแตะ ชุดกีฬาเข้ามา
เค้าคงไม่ตกใจหรอก เพราะเห็นคนอื่นทั่วคณะแม่งแต่งตัวแปลกกว่านี้อีก
5555 




ก็เรยออกมาถ่ายรูปกับป้ายคณะ แล้วก็เดี๋ยวจะไปหาร้านกาแฟ
อารมณ์ป่าๆกัน ชื่อร้าน เฟิร์น ฟอร์เรส  ที่นี่เย็นสบาย
ต้นเฟิร์นเพียบ ร่มรื่นเหมือนอยู่ในป่า มีการปล่อยละอองน้ำ
ทำให้เกิดมอสเขียวครึ้มไปทั่ว แล้วก็ตามมาด้วยยุงนั่นเอง
มีป่าที่ไหน ก็มียุงที่นั่น




นั่งไปนั่งมา พอนึกถึงวันนี้ ที่จะต้องกลับ นึกถึงความสุข
ที่จะต้องจาก น้ำตาก็ซึมๆว่ะ เรารู้สึกว่าที่นี่อบอุ่นเหมือนบ้าน
ไม่สบายใจ มาที่นี่ก็รู้สึกผ่อนคลาย ได้พักผ่อนจริงๆ
ทำให้การเดินทางตลอด 7 วันที่อยู่ที่นี่ โคตรมีความสุขเรย
แต่ก็อย่างว่าแหละ ทุกการเดินทาง มีจุดสิ้นสุดเสมอ 

เพราะฉะนั้นเราก็ต้องก้าวเดินต่อไป
เผชิญกับทุกอุปสรรค ที่รอเราอยู่ข้างหน้า

ไปกันต่อ ที่วัดสุดท้าย วัดที่9 วัดดวงดี  
เพื่อเอาฤกษ์เอาชัย ก่อนกลับ ชลบุรี
ไปทำหน้าที่ของตัวเอง 





หลังจากไหว้พระ 9 วัดเสร็จ เราก็ไปปิดฉากด้วยการไปกิน
ข้าวซอย ที่อร่อยที่สุด กับรสชาติที่เราคุ้นเคย
นั่นก็คือข้าวซอยนิมมาน เป็นมื้อสุดท้าย ของจังหวัดเชียงใหม่
ก่อนที่เราจะมาพบกันใหม่ พ.ค ปี หน้า ปี 2017




หลังจากได้เวลา เราก็เอารถไปคืน สรุปเราวิ่งกันไป 5 ร้อยกว่ากิโลเมตร
เป็น 500 กว่าโลที่เราจะไม่มีวันลืมม เป็นทริปที่ดีที่สุดเรยก็ว่าได้
หลังจาก เอารถไปคืน ก็ไปนั่งรอรถบัส เพื่อขึ้นรถกลับ กทม.
ไปทำหน้าที่ของเราต่อ แต่จำได้ว่า วินาที ที่รถออกจากท่า
น้ำตามันก็ซึม แล้วก็บอกกับตัวเองว่า จะกลับมาใหม่ทุกครั้งที่มีโอกาส
เป็นจังหวัดที่เราอยู่แล้วรู้สึกว่ามีความสุขที่สุด



แล้วเจอกันใหม่ทริปหน้าครับผม 
ทริปที่ดีที่สุด

Popular Posts

Facebook