2 วัน กับนครสวรรค์

บันทึกการเดินทาง วันที่ 23-24.03.19

จ.นครสวรรค์

เอาล่ะมาพบกันอีกครั้งกับการเดินทาง ครั้งใหม่
ซึ่งต้องบอกก่อนเลย ว่าลิสต์นี้ตั้งใจจะมานานมากแล้ว
ประมาณ2 ปีได้แล้ว เนื่องจากเคยเห็นพี่มิ้น ไอโรมอโลน
เคยมาปีนเขา ขึ้นมาดูพระอาทิตย์ตกที่นี่
ซึ่งมันสวยมากกก

และในวันนี้เราจะไปพิชิตยอดเขาลูกนั้น
ไปลุยกันเรย

โดยเราออกเดินทางจาก กทม.ประมาณ 10 โมง
เพื่อจะไป จ. นครสวรรค์  เราก็ขับรถกันมาเรื่อยๆ
แต่บอกไว้ก่อนว่าทริปนี้ นอนสบาย นะจ๊ะ
แต่กิจกรรมเข้้าขั้นแอดเวนเจอร์นิดหน่อย

เมื่อเราไปถึงบางปะอิน ก็เจอกับป้ายข้าวแกงถนัดแดก
จริงๆแล้ว ไม่เคยสนใจจะกินเลย
แต่พอดี ไปเจอคลิป ทัวร์ก๊าบๆ ไปลองกิน
แล้วพี่บาสบอกโอเคร ก็เลยอยากลองดู

ตัวร้านข้าวแกง ก็อยู่ในปั๊ม ปตท.นั่นแหละ
แต่คนเยอะมาก แต่มันไม่ใช่แค่นั้น
พอเราเลือกๆดู พอมาเช็คบิล 205 บาท
กับข้าวแกง 2 จาน แล้วก็แกงจืดอีก 1 ถ้วย

ซึ่งผมมองว่ามันแพงเกินไป มันแพงเกิน
คำจำกัดความว่าข้าวแกง แต่ผมก็ยังไม่ได้บ่นอะไรนะ
ก็คืออยากลองกินก่อน แล้วค่อยวิจารณ์

พอกินไปคำแรก ก็เออ อร่อยดีนะ
แต่ก็ไม่ได้อร่อยขนาดนั้น ถ้าเทียบราคา
คิดในแง่ดี เค้าอาจจะใช้วัตถุดิบราคาแพง
อย่างที่หม่อมเค้าบอกก็ได้

แต่พอดูข้าวแล้วยังเป็นข้าวผสมอยู่เรย
ไม่ใช่ข้าวหอมมะลิ ก็เลยผิดหวังอยู่นิดหน่อย
จะดีก็คือ ร้านติดแอร์ แค่นั้นแหละ
แต่ผมก็เคยกินข้าวแกงอาจารย์
ก็ไม่ได้แพงขนาดนี้จานละ 50 บาท ห้องแอร์
แต่ความอร่อยก็พอๆกัน

จริงๆแล้วผมอยากมาลองกินแกงจืด
ที่หม่อมเค้าพรีเซนต์ แทบทุกรายการ
พอมากิน ก็ไม่ได้ต่างจากร้านทั่วไปมากนัก

แต่ก็เอาเถอะ ทุกอย่างก็ต้องมีครั้งแรก
แต่อาจไม่มีครั้งต่อไปอีกแล้ว

เราออกเดินทางกันต่อ ตอนบ่ายโมง
สรุปคือไปถึง นครสวรรค์ ประมาณ 4 โมง
เช็คอินโรงแรม นอนพักแป๊ป

แล้วก็ออกไปเขาหน่อ ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองไปอีก
40 กิโลเมตร กว่าจะได้ปีนจริงๆ ปาไป 5โมงครึ่ง
ที่นี่ ลิงเยอะมาก นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็จะมา
ให้อาหารลิงกันที่นี่

แต่ที่นี่ดีอย่างตรงที่ลิงไม่ดุ
เดินผ่านไปเลย เดี๋ยวมันเดินหลบเอง
แล้วรถก็เอาไปจอดในกรงที่ทางวัดทำไว้ให้
แล้วก็ไปเดินขึ้นเขาหน่อกันเรย

โดยทางเริ่มแรกก็จะเป็นขั้นบันไดปูน
แนะนำว่าให้ยืดเส้นแล้วก็ออกกำลังกายมาก่อน
ไม่งั้นจะเป็นเหมือนผม ตรงบันไดปูนว่าชันแล้ว
ตรงบันไดลิงนี่ชันสุดๆ แต่ก็ไม่ได้เกินความสามารถนะ
เดินได้ไม่มีปัญหา ใช้เวลาเดินไม่ถึง ชม.
ก็ถึงด้านบนแล้วล่ะ วิวด้านบนคือสวยมาก

แล้วพระอาทิตย์ก็กำลังจะตก
มันเป็นอะไรที่โคตรสวยเลย ถ้าจะมานั่งดูพระอาทิตย์ตกดินที่นี่
ถามว่าอยู่ข้างบนเสียวมั๊ย ก็มีบ้างตรงริมหน้าผา
เพราะถ้าตกไปคงรอดยาก 555
เราก็ถ่ายรูปไปเรื่อยๆจนพระอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้า

เราก็ต้องหันหลังกลับกันแล้ว ก่อนที่ฟ้าจะมืด มันจะเดินลำบาก
ก็เลยต้องรีบลง ก่อนที่ฟ้าจะมืดสนิท
ขาลงนี่คือเขาสั่นเลย ปวดขามาก ไม่ยอมยืดเส้นก่อน
นรกก็จะตามมาในวันพรุ่งนี้  555+

เดินลงมาถึงข้างล่าง ก็ได้เวลากลับเข้าตัวเมือง
อีก 40 กิโล โดยเราจองโรงแรมไว้ที่ วัชระ นอร์ทเกต
ดีนะ แอร์นี่เย็นฉ่ำ มาถึงโรงแรม ก็รีบไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วเดี๋ยว
เราไปเดินถนนคนเดิน นครสวรรค์กัน

ซึ่งถนนคนเดินนครสวรรค์อยู่ที่ริมน้ำปิงนั่นเอง
กว่าจะมาถึง ก็ 3 ทุ่มครึ่งแล้ว
ที่นี่มีตลาด วันเสาร์ วันศุกร์ เปิดดึกอยู่นะ
แต่ยังเดินได้ไม่ถึงไหน ก็เจอร้านนวด จะรอไรล่ะครับ
รีบแวะเข้าไปเลย นวดซักครึ่ง ชม.โคตรเพลินอ่ะ
 พอนวดเสร็จมาเดินเล่น ไม่มีไรขายแล้ว

เดินไปเดินมามาเจอของดีนครสวรรค์ คือขนมเปี๊ยสดนครสวรรค์
ชิ้นละ 5 บาท ราคาถูกมาก แล้วก็ไปกินก๋วยจั๊บน้ำข้นกันต่อ
อร่อยมาก แล้วก็จะไปถ่ายรูปกับอุทยานสวรรค์ต่อ
แต่เค้าปิดประตู เพราะมันดึกมากแล้ว 4 ทุ่มกว่าแล้ว


ก็ทำได้แค่กลับโรงแรมไปนอนแล้วล่ะ
ไว้ลุยกันใหม่ พรุ่งนี้ครับผม

24.03.19

เช้าวันใหม่ เราตื่นมาได้ไม่นาน พรอมแอร์ฉ่ำๆ
ก็ได้เวลาลงไปกินอาหารเช้าแล้วสินะ ที่นี่ตกคืนละ 580 บาท
มีอาหารเช้าแบบบุฟเฟต์ให้ คุ้มมากนะ

อาหารก็อย่างที่เห็น เป็นแบบบุฟเฟ่ต์ ตักได้เรยตามใจชอบ
ชอบสลัด อร่อยดี แกงจืดก็อร่อย มีที่ไม่ได้กินคือข้าวต้ม
กับข้าวผัด 555+

กินจนอิ่มแปร้แล้ว ก็ได้เวลาขึ้นไปเก็บของ
แล้วเช็คเอาท์ เพื่อไปเที่ยวกันต่อ

โดยที่แรกทที่ไปคือ อุทยานสวรรค์ ที่ๆเมื่อคืนไม่ได้เข้าไปนั่นแหละ
แต่วันนี้แดดร้อนแรงมาก

ก็เรยลงไปสูดอากาศแป๊ปนึง แล้วก็ไปวัดคีรีวงศ์ต่อ แต่ก็ไม่ได้ขึ้นไป
กลัวรถขึ้นไม่ไหว ก็เรยไปชมพิพิธภัณฑ์ปากน้ำโพ
ที่แฟรีแลนด์ดีกว่า โดยที่นี่เค้าจำลองเมืองสมัยก่อนเอาไว้
ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา

โดยอยู่ที่ชั้น 5 ของห้างแฟรีแลนด์ ที่นี่ยังมีสวนสนุกของเด็กขนาดใหญ่
ที่นี่ด้วย แต่เราไม่สน เราจะเดินหาของกิน
เดินไปเดินมา มากินสุกี้แต่ไม่ใช่เอ็มเคนะ คล้ายๆกัน
น่าจะเป็นร้านดั้งเดิมของที่นี่ เพราะเห็นคนยังคงเข้ามากินเยอะแยะ

ก็เลยขอลองเข้ามาชิมซะหน่อย
อยากกินเป็ดย่างมานานแล้ว
กว่าจะกินเสร็จ กว่าาจะออก ก็ปาเข้าไป 4 โมงแล้ว
เป้าหมายหลักของวันนี้คือ พาสาน

แลนด์มาร์กแห่งใหม่ของนครสวรรค์  พอออกจากแฟรีแลนด์ได้
ก็ไปตรงสะพานเดชาติวงศ์กันก่อน แต่แดดร้อนแรงเหลือเกิน
ถ่ายรูปได้แต่ย้อนแสง ก็เลยไปพาสาน ที่สุดท้ายเลยล่ะกัน

พอไปถึง ทางก็ยังสร้างไม่เสร็จดี แต่ที่นี่ดีเหลือเกิน
มันเป็นที่ๆชิลมาก ถ้าให้เปรียบ มันคล้ายๆ
สะพานโค้งของสิงคโปร์
แต่ที่นี่คือ ประเทศไทย แนะนำมากๆเลย
ใครมานครสวรรค์ ก็ต้องมาที่นี่เลย พาสาน

มาชมพระอาทิตย์ตกได้ที่นี่
มานั่งชิลๆ จิบเบียร์ มันเป็นอะไรที่เพอร์เฟคที่สุดเรยอ่ะ
สรุปวันนี้ ผมดีใจมาก ที่พาตัวเองมายืนในจุดนี้
จุดที่เรียกว่าความสุข มันเหมือนครั้งที่ผมไปปีนัง
ไปยืนอยู่ตรง ชิว เจ็ตตี้ คือมันรู้สึกดี
มันไม่ใช่แค่การมาเห็น มาถ่ายรูป หรือมาเช็คอิน

แต่เราได้มาเสพ มาปลดปล่อยความเป็นตัวเอง
ทิ้งมันลงไว้ข้างๆ แล้วจดจำกับภาพตรงหน้า
ไม่ต้องสนใจเรื่องอะไร แค่นี้แหละ ที่ชีวิตต้องการ

วันนี้ก็เป็นอีก 1 ทริปที่ประทับใจมาก แล้วมันก็จะอยู่ในความทรงจำ
ตลอดไป แล้วไว้เจอกันใหม่ทริปหน้าครับผม

แล้วเจอกันซักที่บนโลกใบนี้