ชีวิตเริ่ม... เมื่อเริ่ม"ใช้ชีวิต"


โพสต์แนะนำ

ยินดี ปีนัง : hello penang ep.1

สวัสดี ปีนัง             เชื่อว่าหลายๆคน คงมีความฝัน ในชีวิตของตัวเอง   อยากใช้ชีวิตในแบบของตัวเอง อยากทำในสิ่งที่ตัวเองอยากท...

วันศุกร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

มัลดีฟส์ สวรรค์ของคนคลั่งทะเล EP 1



บันทึกการเดินทาง ณ วันที่ 4-7 . 05 .19

ประเทศ มัลดีฟส์


สวัสดีค๊าบบ พบกันอีกแล้ว
วันนี้เราจะมาเล่าการเดินทางแบบละเอียดยิบ

และบอกเล่าในสิ่งที่ทุกคนอยากรู้
โดยขอเกริ่นก่อนว่า
ทริปนี้เป็น ทริป ประหยัด แน่นอนว่า
มันดูขัดๆกันนะ ไป"มัลดีฟส์" แต่ไปแบบประหยัด
มันเป็นไปได้หรอ !!

แต่วันนี้ มันเป็นไปแล้ว

โดย ขอสรุปค่าใช้จ่ายทั้งทริปนี้

จ่ายไปทั้งสิ้น
10,750 บาท 
แม่เจ้าาาาาาาา!!

รวมทุกอย่างแล้ววววว จิงๆ แฮร่ๆ


โดยเตรียมการประมาณ ครึ่งปี
ไปดูกันว่าเราทำกันยังไง

สิ่งที่เราต้องเตรียม คือ BIG SALE 
ตั๋วบินไป ประเทศมัลดีฟส์  ลงที่สนามบิน เวโรนา 
เมือง มาเล


อยากบอกว่า เท่าที่สังเกตุมา
ตั๋ว BIG SALE จะมาเดือน มีนาคม
แล้วก็ ประมาณเดือน พ.ค - ก.ค 
บางปีก็มาโผล่ ต.ค-พ.ย ก็มี 

เพราะฉะนั้น ด่านแรกคือ ต้องคว้า
ตั๋วถูกมาให้ได้ 

โดยที่ทริปนี้เราได้ตั๋ว ไป-กลับ มาในราคา

2,500 บาท

เท่านั้น !!

โดยเราได้ไฟล์ทเช้า
แต่แล้ว แอร์เอเชีย ก็ยุบไฟล์ท
ให้เหลือเพียงไฟล์ทเย็น ไฟล์ทเดียว
 ถามว่าหงุดหงิดมั๊ย ตอนแรก
ก็หงุดหงิดนะ แต่ทุกปัญหามีทางออก

ปัญหาที่เราเจออย่างแรกเลยคือ
พอเลื่อนไปไฟล์ทเย็น 
จะทำให้เราขึ้นเรือท้องถิ่นราคาถูกไม่ทัน
แล้วก็ เช็คอินที่พักไม่ทัน
เพราะเคาเตอร์เชคอินโรงแรม ปิด 4 ทุ่ม
ซึ่งไปไม่ทัน

ทำให้เราต้องจองสปีดโบ๊ท 650 บาท
แล้วก็อีเมล ไปหาที่พักว่า เกิดแอคซิเดนท์ขึ้น
ทำให้เราต้องเชคอินล่าช้า
ช่วยให้เขารอเราหน่อย
ซึ่งทุกอย่างถูกเตรียมการที่ไทยทั้งหมด

เอาล่ะ 

ทริค ให้ได้ตั๋วถูก ที่แอบซ่อนอยู่
คือ ลองไปหาในช่วงโลซีซั่น 
โอกาสจะเจอตั๋วถูก จะมากกว่า

โอเค  ไปต่อ....

เมื่อเราได้ตั๋ว ขั้นต่อไปคือ ที่พัก

ที่พักมัลดีฟส์ขึ้นชื่อว่าโหดจัด
ปลัดไม่ต้องบอก

แพงงงงมากกกกก

แล้วมันจะไปแบบถูกๆ ได้ยังไงกัน
เอาล่ะ !!

ต่อไป ผมจะอธิบายประเทศมัลดีฟส์
ให้คนที่ไม่เคยรู้จักประเทศนี้มาก่อน

ประเทศมัลดีฟส์ 
จะมีเกาะต่างๆมากมาย
ส่วนรีสอร์ท ที่เราเห็นตามโซเชียล
ก็คือถูกสร้างขึ้นตามเกาะต่างๆ 

เราจึงจำเป็นต้องหาเกาะ ชาวบ้าน
หรือที่เรียกว่า local island

เพราะจะทำให้เราได้ที่พักในราคาถูก
ตอนนี้เกาะที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวราคาถูก
ก็คือ เกาะมาฟูชิ 

แต่เราอยากไปแบบรีสอร์ทนี่นา
อยากไปแบบหรูหรา ทำไงดี

เราก็ซื้อทัวร์ visit resort ไปสิ ง่ายจะตาย
ราคาแสนถูก แถมได้ใช้ชีวิตเหมือน
คนที่ไปพักรีสอร์ทจริงๆ
เพียงแต่ไม่ได้นอน ที่นั่นเฉยๆ

เด๋วจะบอกหมดเปลือกว่า
รวมอะไร ไม่รวมอะไร

ต่อไป...
การกิน แน่นอนว่าการกินที่นี่ก็แสนแพง
เพราะฉะนั้น แนะนำ ตุนเสบียงสิค๊าบบ
55555+



เอาล่ะ ต่อไปจะเป็นการเล่าการเดินทางล่ะน้า

อันดับแรก เตรียมตัว เตรียมของ
จัดของ เตรียมเสบียง



จัดกระเป๋า แล้วไปสนามบินกัน

แนะนำว่า ให้มาก่อน 3 ชม. ในกรณีโหลดกระเป๋า
เพราะคนจีนเช็คอินเยอะมาก







เมื่อเราเช็คอิน โหลดกระเป๋าเสร็จ
ผ่านตม. ตรวจกระเป๋า ก็เดินเข้าเกต
เตรียมตัวขึ้นเครื่อง

ก่อนขึ้นเครื่องใช้สิทธิ์ AIS เซเรเนด
แลกรับโค๊ก ฟรี ด้านในสนามบิน

โดยไฟล์ท ที่เราบิน คือ 17.05 น
จะใช้เวลา บิน 4 ชม. ครึ่ง โดยประมาณ





แต่เวลาที่นู่นจะช้ากว่าไทย 2 ชม.
แปลว่าจะถึง มัลดีฟส์ 19.35 โดยประมาณ


เราก็ส่งอีเมลไปแจ้งโรงแรมอีกครั้ง
ว่าเราจะไปแล้วนะ วันนี้
เค้าอีเมลกลับมาว่าจะมารับเราที่ท่าเรือ
เกาะมาฟูชิ

เอ้อ ลืมบอกว่าที่นี่
ต้องจองโรงแรมไปก่อนนะ
มีแต่ตั๋วเครื่อง ไม่มีบุคโรงแรม
เค้าไม่ให้เข้าประเทศนะจ๊ะ 


เมื่อถึงสนามบิน
ที่ ตม.นี้ สามารถ เข้าเป็นคู่
เป็นหมู่คณะได้เลย เออ ไม่เหงาดี 555



เมื่อเราผ่าน ตม.มาได้ 
ต่อไปคือเราต้องหา บริษัท ที่เราจอง
สปีดโบ๊ทไว้ เราจองกับบริษัท I com tour
แต่ไม่เจอ ไม่มีเคาเตอร์เลย

เดินไปถาม infor ก็ตอบไม่รุเรื่อง
ถามไปถามมา เรื่อยๆ เค้าบอกให้นั่งรอ
แล้วเดี๋ยวจะมีคนมาเรียกเอง

ตอนนั้นประมาณ 2ทุ่มกว่าๆ เกือบ 3 ทุ่ม
แต่เวลานัดคือ 3 ทุ่ม ครึ่ง

ประมาณ 3 ทุ่ม ก็มีผู้ชาย ถือป้าย มาฟูชิ
แล้วเดินมาถามเรา ว่าจองไว้กับ ไอคอมทัวร์ รึป่าว
แล้วก็ให้เราดูชื่อ เราก็บอก ใช่ๆ
เค้าก็ให้นั่งรอ แล้วเค้าก็เดินไปหา
สมาชิกที่จองไว้ หามาจนครบ
พอ 3 ทุ่ม ครึ่งปั๊ป ออกปุ๊ป

คนไทย รู้ไว้ก่อนเลยว่า
คนที่นี่ตรงเวลามากๆ มากที่สุด
แทบจะออกก่อนเวลาด้วยซ้ำ

เด๋วจะบอกว่าทำไมถึงรู้ว่าเขาเป็นคนตรงเวลา
ซึ่งมันสะท้อนให้เห็นถึงประเทศเราเอง
เราเคยอยุ่ในประเทศที่
เออ เลทนิดหน่อยช่างมัน ไม่เปนไร
แต่พอมาใช้ชีวิตที่นี่ จะลำบาก

พอ 3 ทุ่มครึ่ง ก็พาเราไปขึ้นเรือ 
จากนั้น เค้าก็จะไปจอดรับ คนที่ฝั่งมาเล
ฝั่งที่เราอยู่ คือฝั่งสนามบิน 
พอ 22.00 ปุ๊ป เรือออกทันที
ตอนนั้นเราเองยังไม่รู้ว่าคนที่นี่ตรงเวลากันมาก

ก็ยังไม่ได้อะไร  
จนเราไปถึงท่าเรือ เกาะมาฟูชิ
ก็มีพนักงานจากโรงแรม เดินมารับเรา
เอารถเข็นมาใส่กระเป๋าเรา
บริการดีมาก สุดอ่ะ เราก็บอกขอจองทัวร์
ในวันพรุ่งนี้ก่อน เค้าก็บอกว่าที่โรงแรมเรามี
ไปดูก่อน เหมือนกันๆ ถ้าไม่พอใจ 
จะเดินมาจองที่นี่ก็ได้  เราก็โอเค






โดยที่เราไปพัก ชื่อว่า Narnia maldives
พอเดินมาถึงที่พัก เค้าก็เอาผ้าเย็นมาให้เราเช็ดหน้า
เอาน้ำผลไม้มาเสิร์ฟ โคตรดีอ่ะ

หลังจากนั้นก็เริ่มจ่ายค่าที่พัก
3 คืน จ่ายไป 133 เหรียญ หรือประมาณ 4100 บาท

นี่คือราคาที่รวมภาษีแล้ว
ที่นี่ภาษีแพงมาก 
โดยขอสรุปดังนี้
โดยที่นี่ มีภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 12%
ค่าธรรมเนียมสิ่งแวดล้อม US$3 ต่อคน ต่อคืน
เซอร์วิสชาร์จ 10%

ประมาณนี้  ใครที่จองที่พัก
ดูให้ดีก่อนนะว่าราคาสุดท้าย รวมภาษีรึยัง

ค่าที่พักเพียวๆ แค่ 94 เหรียญเอง
โดนภาษีไป 40 เหรียญ 555+

จากนั้น เราก็มาถึงการจองทัวร์ รีสอร์ต
เราให้คนที่นี่แนะนำว่าที่ไหนดีสุด
สวยสุด ไปที่นั่นเลย
เค้าเลยแนะนำที่ centara แต่คนไทย
จะนิยมไปเกาะ vadoo เยอะ
แต่เราไม่ เราไปcentara เค้าบอกว่า
เกาะใหญ่กว่า สวยกว่า แล้วก็all inclusive เยอะกว่า

โดยที่นี่ แพงกว่านะ 555 +

แต่แกลดให้ จาก 150 เหรียญ 
เหลือ 140 เหรียญ

ดีอ่าาาา เอาอันนี้เลยยย 
เด่วค่อยบอกว่ามีอะไรที่เกาะนี้บ้าง

จากนั้นเค้าก็นัดให้มารอตรงล๊อบบี้
7.50 น. วัน พรุ่งนี้

อาหารเช้า มี 6.30 - 10.00 น.

จัดแจงเวลาเสร็จ ก็ได้เวลาไปชมห้องพัก
ห้องพักที่นี่ดีมาก ดูตามรูปได้เลย




วันแรกเรากินอาหารที่พกมาจากไทย
เห็นกระเพราซอง แล้วก็ไก่กระเทียม
ของโรซ่าพร้อม แล้วก็ข้าวสวยที่พกมาจากไทย
ข้าวสวยแบบใช้น้ำร้อนต้มอ่ะนะ ไปหาดูเอา
พอกินเสร็จ
ตอนนั้นเป็นเวลาเที่ยงคืนกว่าแล้ว 
ก็ไปอาบน้ำ นอน รอวันต่อไป
ที่นี่ ใช้เงิน us ได้เลย นะ
เชื่อมั๊ยว่าแลกเงินมาแค่ 9 พันบาทเอง
เหลือกลับบ้าน 2 พันกว่าบาท 5555+



04 . 05 .19

ตื่น อาบน้ำแต่งตัว ลงมากินข้าว



หน้าตาอาหารบ้านเค้าเป็นแบบนี้นะ มันจะเป็นเหมือนถั่วแดง ใส่ซอสประมาณนี้ กินได้แต่ไม่อร่อยมาก มีนม ขนมปัง ออมเลท มันฝรั่งทอด คอนเฟล็ก น้ำส้ม ชา กาแฟ ทุกอย่างฟรี
แต่ที่ฟรีด้วย คือ ครีมกันแดด ที่นี่ทาครีมกันแดดฟรี 555 +

ชา กาแฟ สามารถชงกินได้ตลอดเวลา ตอนไหนก็ได้ ที่พักเค้าสะอาดและใส่ใจบริการมากๆ ขนาดปิ้งขนมปังอยู่ พนักงานบอกให้มารอที่โต๊ะ เด่วเดินไปเสริ์ฟให้ ใส่ใจมาก
หลังจากนั้นเราก็นั่งกินกันไปเรื่อยๆ  จน 7.55 เค้าเดินออกมาตามว่าจะได้เวลาไปท่าเรือแล้วนะ ให้รีบกินหน่อย ตอนนั้นก็เริ่มคิดแล้วว่า จะตรงเวลาอะไรขนาดนั้น จากนั้นเราก็รีบกินแล้วก็เดินตามไปขึ้นเรือ
ที่ท่าเรือ  จากนั้น เค้าจะให้บัตรเรามา เป็นบัตรขึ้นเรือขากลับ แล้วเค้าก็ย้ำเรยว่า No late 
ตอนนั้นเราเริ่มรุสึกแล้วว่า ที่นี่แม่งโคตรตรงเวลา  พอไปถึงท่าเรือ สัก 8.10 ก็มีเรือจากไหนไม่รู้
มารับเรา เป็นเรือสปีดโบ๊ท พอคนขึ้นเสร็จ ออกเลย ไม่มีการรอใดๆทั้งสิ้น






ใช้เวลา เกือบ ชม. เราก็มากันถึงเกาะ VADOO ก่อน นี่คือเกาะที่เราจะมาตอนแรก เค้ามาส่งคนขึ้นเกาะนี้เรายังไม่ต้องลง เราไปลงในเกาะของเรา อีกเกาะนึงซึ่งอยู่ไกลกว่า





เมื่อเราไปถึง เค้าจะมีพนักงานมารับเราจากเรือ พาเดินไปส่งต่อให้พนักงานอีกคน
พนักงานคนนี้จะให้เราเซ็นชื่อ แล้วก็อธิบาย ว่าโซนไหนทำอะไรได้ หรือไม่ได้
หลักๆก็คือ ห้ามเข้าไปในโซน ห้องพักแขกที่นี่ ให้เดินได้รอบๆที่เป็นสะพานไม้
แต่เดินเข้าไปในห้องไม่ได้ แต่เอาจริงๆ ไม่มีใครมานั่งคุมเฝ้าหรอก ก็คือมีกติกาเราก็ควรเคารพ
เค้าจะบอกว่าบริเวณไหนใส่บิกินีได้ บริเวณไหนใส่ไม่ได้ 
จากนั้นเค้าจะพาเราเดินไปที่ชายหาด ที่นี่จะเป็นเหมือนแหล่งรวมทุกอย่างที่นี่




เอาล่ะ คราวนี้ผมจะบอกว่า
อะไรที่เราจะได้จากเกาะแห่งนี้
สิ่งที่ผมจะบอกด้านล่างคือฟรี !!
เมื่อมาถึงเกาะแห่งนี้



- เครื่องดื่มทุกอย่าง ทั้งมีแอลกอฮอล์ และไม่มี สามารถสั่งได้ทั้งวัน ที่บาร์จะมีบาร์เทนเดอร์คอยชงน้ำให้เรา ดูเมนูแล้วสั่งได้เลย แต่ละเมนู 7 เหรียญทั้งนั้น แต่เราซื้อแพคเกจแล้ว ฟรี

- ผ้าเช็ดตัว ขอได้เลยมีวางไว้เรียบร้อย โต๊ะ เก้าอี้ เตียงนอน ทุกเตียงสามารถนอน นั่งได้หมดทั้งเกาะ

- พายเรือคายัค ปั่นเรือถีบ หรือแม้แต่อุปกรณ์ สน็อคเกลลิ่ง ชูชีพ มีให้เรายืมใช้ฟรีทั้งหมด

- อาหารกลางวันสไตล์ภัตตาคาร  มีทั้งแบบสั่ง หรือเดินไปหยิบเอง จะเข้ากี่ครั้งก็ได้ กี่รอบก็ได้ แนะนำไวน์ เลิสมากกกกกกกกก มีเชฟ คอยบริการเรา ของหวานนี่ละลานตาเลยทีเดียว ฟรี

- สระว่ายน้ำ อยู่ติดบาร์เลย ชิวสุดๆ ฟรี

- wifi มีทั่วทั้งเกาะ จะเดินไปไหนก็มีwifi ทุกจุด มีลำโพง แทบทุกจุดทั่วเกาะ
ลำโพงแบบตั้งพื้นนะ มองเพลินๆ นึกว่าถึงขยะแต่ไม่ใช่ มันคือลำโพงตั้งไว้
เปิดเพลงเบาๆ อย่างฟิน





แค่นี้ก็เป็นอะไรที่แม่งงง โคตรคุ้มแล้ว สำหรับ 1 วัน
กับค่าทัวร์ แค่ 4300 บาท 5555+

ที่เหลือก็แค่ใช้ชีวิต !!


ตอนที่เห็นทะเลครั้งแรก ผมเหมือนคนที่สติแตก
คือมันสวยมากๆๆๆๆ จนมันไม่สามารถจะเก็บ
ความรู้สึกต่อไปได้ ผมทิ้งทุกอย่างลงบนเตียง
ของมีค่าทุกอย่าง แล้ววิ่งไปที่ทะเล
นาทีนั้น คือ มันเหมือนฝันที่เป็นจริง
วันนี้เราได้มาเหยียบน้ำทะเล มัลดีฟส์จริงๆแล้ว

เชื่อมั๊ยว่า เวลาบนเกาะ 9.oo - 17.30 
มันเหมือนเวลา ชั่วพริบตา 
ทำไมเวลาแห่งความสุขมันผ่านไปไวขนาดนี้
เบียร์ จะกินกี่แก้วก็ได้ ที่เกาะนี้ แต่เกาะมาฟูชิ
ไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอลนะ เพราะเป็นมุสลิมกันทั้นนั้น

แต่ที่นี่ คุณจะสั่ง กี่แก้วก็ได้ สั่งค๊อกเทล ม็อคเทล
สั่งเบียร์สด น้ำผลไม้สดๆ กี่แก้วก็ได้ กับวิวแบบนี้ บรรยากาศแบบนี้
คือมันฟินมากกก ไม่รู้จะบรรยายยังไง

อยากดำน้ำดูปลา แค่เดินออกไปทะเล ก็มีปลาให้ดูแล้ว
จริงๆ ที่นี่มีทั้งนวดสปา อโรมา มีห้องโยคะ ฟิตเนส อะไรด้วยนะ
แต่แค่นี้ก็คือ ใช้ชีวิตทั้งวันแล้วอ่ะ ไหนจะถ่ายรูปตรงสะพานที่พัก
ที่นี่มีสะพาน 2-3 จุด คนละฝั่งกัน มาถึงที่นี่ ถ่ายมุมไหนแม่งงสวยหมด

ขอเล่าแบบนี้ดีกว่าว่า เวลาทั้งวัน ให้ทำทุกกิจกรรมมันไม่พอจริงๆ
5555+



































ได้ทำอย่างละแป๊ปๆ  ขอสรุปกิจกรรมที่ผมทำละกันนะ
กินเบียร์ ช่วงเช้า 3 แก้ว เล่นน้ำในสระ นั่งบาร์ สน็อคเกิ้ล
แล้วก็เดินไปถ่ายรูปที่สะพาน จากนั้นไปนั่งกินข้าวกลางวัน
สปาเก็ตตี้ ก๋วยเตี๋ยวจากเชฟไทย แล้วก็สลัด ไวน์อีก 1 แก้ว
จากนั้น ออกมานั่งบาร์ กินเบียร์ ถ่ายรูป ริมสระน้ำ
เดินไปนั่งโซฟา เปลี่ยนบรรยากาศ เปลี่ยนวิว 
สั่งค็อคเทล ม็อคเทล มาจิบ  แล้วไปพายคายัคต่อ
โกโปรพัง น้ำเข้า ตอนเอาไปถ่ายฉลาม 555 +
พายคายัคเสร็จ ไปสน็อคเกิ้ลต่อ สั่งเบียร์
เดินไปดูเจ้าหน้าที่ให้อาหารปลา จบแล้ว 1 วัน













คือ แม่งเร็วมากจริงๆ เร็วจนคิดว่า หมดแล้วหรอเวลาแห่งความสุข
ซึ่งต้องบอกก่อนเลยว่าไม่มีคำบรรยายใดๆ นอกจากความสุข ความทรงจำที่ดีจากที่นี่
มันสุดยอดกว่าที่ไหนๆ ที่เคยไปมา นี่คือการได้ปลดปล่อยใช้ชีวิตจริงๆ
ทั้งวันแทบไม่ได้แตะโซเชียลเลย ทั้งๆที่wifi มีทั่วทั้งเกาะ เดินไปไหนเล่นได้หมด









เมื่อถึงเวลา 17.30 ก็มีเรือลำเดิม แวะเข้ามารับ
แล้วก็วนไปรับคนที่เกาะ VADOO เหมือนเดิม แล้วกลับเกาะมาฟูชิ มาถึงเกาะมาฟูชิประมาณ 6โมงกว่า
เราก็ไปเดินเล่นตรงริมชายหาด แล้วก็นั่งดูพระอาทิตย์ตก นั่งเล่นกับแมว มันเป็นวันที่ชิวแล้วมีความสุขสัสๆ ถึงแม้ว่ากลับห้องมา เราจะมานั่งต้มมาม่ากินกันก็ตาม เปิดแอร์เย็นๆ นั่งกินมาม่า 555+
ก็ยังมีความสุข เสบียงที่เตรียมมามันเยอะมาก จนกินไม่หมด 555 +











ทั้งขนม นม น้ำอัดลม มาม่า โจ๊ก เหลือกลับไทยทุกอย่าง เหลือดีกว่าขาดท่องไว้ๆ
ที่นี่โค๊กกระป๋องจิ๋วๆ ราคา 40 กว่าบาท เรานี่พกแบบฟูลออฟชั่นไปเรย 555+
กินแบบเหลือๆ ไม่มีอด กินตลอดเวลาก็ยังไม่หมด 

ลองดูใบเสร็จละกันว่ารายการของที่ซื้อไปมัลดีฟส์เยอะแค่ไหน


ก่อนที่จะลา EP นี้ ไป ขอฝากว่า ในโลกนี้บางทีเราไม่ได้ต้องการออกไปหาคำตอบหรอกว่ามันสวยจริง มันเป็นแบบนั้นแบบนี้หรือเปล่า  ไปด้วยความไม่คาดหวัง เหมือนกระเป๋าโล่งๆ 1 ใบ
ออกไปเก็บเกี่ยวความสุข ต่างๆรอบตัว ได้ก็ช่างไม่ได้ก็ช่าง แต่อย่างน้อย
เชื่อเถอะ ว่าเราได้อะไรกลับไปมากกว่าอยู่เฉยๆแน่นอน


EP หน้า เราจะมีที่ คูลๆ ดินแดนลึกลับ
แล้วก็เกาะชาวบ้าน ที่เป็นเกาะที่ไร้นักท่องเที่ยว
สำหรับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว
 อีก 2 วัน ที่ต้องออกไปผจญภัย 555+
ถ้าชอบก็ฝากติดตามด้วยน้า
ถ้าแชร์ด้วยก็จะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง 555+
ถ้าไม่ชอบก็แค่อ่านผ่านเลยไปละกัน

ขอไปสรุปค่าใช้จ่าย EP หน้าจร้า

:::::: ทุกสิ่งมี 2 ด้านเสมอ ::::::

:::::: แล้วเจอกันใหม่ EP หน้า ::::::











Popular Posts

Facebook