ชีวิตเริ่ม... เมื่อเริ่ม"ใช้ชีวิต"


โพสต์แนะนำ

ยินดี ปีนัง : hello penang ep.1

สวัสดี ปีนัง             เชื่อว่าหลายๆคน คงมีความฝัน ในชีวิตของตัวเอง   อยากใช้ชีวิตในแบบของตัวเอง อยากทำในสิ่งที่ตัวเองอยากท...

วันอังคารที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

แคมป์ปิ้ง ริมเขื่อนป่าสัก ใช้ชีวิตที่น้ำตกวังก้านเหลือง






บันทึก ความทรงจำ ณ วันที่ 10.02.19

หลังจากเราลงมาจากเขาวงพระจันทร์ ด้วยความที่ใช้แรงไปเยอะ
ไม่ได้เสียเงินซื้อของกินอะไรเรย ไข่เจียว ที่ห่อมาจาก กทม.
นั่นคือตัวเลือก ณ ขณะนั้น 

ตอนนั้นหิวมาก กว่าจะไปถึงที่ตั้งแคมป์ คงจะเย็น
ก็เลย กินมันในรถนี่แหละ พร้อมไส้กรอกอีก 3 ชิ้น

ตอนนั้นเป็นเวลา 1 ทุ่มแล้ววว หันหลังกลับไป
โอ้ ไฟทอดยาวขึ้นไปบนยอดเขา สว่างไสวมากอ่ะ

แต่เราก็ต้องรีบไปที่เขื่อนป่าสัก
เพื่อที่จะตั้งแคมป์ ทำอาหาร  

ก่อนถึงก็แวะซื้อของในเซเว่น ซื้อน้ำแข็ง
ขนมต่างๆ  พอมาถึงบริเวณกางเตนท์ ริมเขื่อน
ก็หาที่ว่างเรยย โชคดีมาก ที่ยังว่างอยู่ที่นึง แล้วก็เต็นท์เรา
ไม่ไดด้ใหญ่อะไรมาก ก็เรยรีบกาง 

แต่ไม่ได้กางฟลายชีท กางแค่เต็นท์มุ้งนะ 
เพราะอากาศ ลม ไม่พัดเรยย ออกจะร้อนๆด้วยซ้ำ

แล้วก็จัดการย่างเสต๊ก ย่างไก่ จิบเบียร์
ฟังเสียง ธรรมชาติ ดูดาว ไปเรื่อย คือตอนที่มาถึง
มันมืดมากแล้ว มองออกไปคือมองไม่เห็นหรอกว่าวิวเป็นไง
ต้องรอตอนเช้า งั้นเดี๋ยวตอนเช้าเรามาดูกันว่า วิวที่เรานอนคืนนี้
จะเป็็นไง แล้วมาลุ้นกันนะ




พอเช้ามา เปิดเต็นท์ออกมาก็เจอวิวนี้เรยครับผม
แถมพระอาทิตย์ยังขึ้นตรงหน้าเต็นท์อีก เป็นอะไรที่โคตรฟิน








แสงแรกมาแล้ว ยังเหลือเพียงแค่พระอาทิตย์ที่จะโผล่ขึ้นมา
ผม ในระหว่างรอ ไปเข้าห้องน้ำรอก่อนเรย
เดี๋ยวมันจะขัดจังหวะหมด 
และแล้วในที่สุด มันก็โผล่ขึ้นมาจนได้





ช่างเป็นอีกวันที่แสนสดใส
เป็นอีก 1 ความทรงจำที่ดีงาม 
เช้าๆแบบนี้ หาข้าวต้มร้อนๆกินดีกว่า 
ทำเองครับผม !!



ข้าวต้มร้อนๆ กับโกโก้ ร้อนๆ โอ้โห โคตรเข้ากัน
ฟินไปเรย นั่งกินกับวิวแบบนี้  สุดๆอ่ะ

ยังไม่หมดนะ มีย่างไก่ ต่อด้วย
แล้วเก็บไก่เอาไว้ไปกินที่น้ำตกตอนกลางวัน
เพราะวันนี้เราจะไปเที่ยวรอบเขื่อนก่อน แล้วค่อยไปน้ำตกต่อ
น้ำตกที่ใกล้ๆ ก็มีน้ำตกวังก้านเหลือง
เด๋วเราไปอาบน้ำแต่งตัว เก็บของ แล้วไปเที่ยวกัน


ที่บริเวณสันเขื่อน จะมีรถนำเที่ยวรอบเขื่อนอยู่นะ รถปกติไม่สามารถ
นำขึ้นมาได้ ค่าบริการอยู่ที่ 30 บาท 50 นาที ไป-กลับ
อารมณ์ก็จะประมาณนี้ แล้วก็จะมีมัคคุเทศก์ คอยพูดให้ความรู้ด้วย
แต่มัคคุเทศก์  ยังเป็นเด็กอยู่เรย 
เก่งมากอ่ะ ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์




ดูวิวสองข้างทางไปเรื่อย แล้วก็ฟังน้องอธิบาย
พูดถึงสถานที่ต่างๆให้เราฟัง ก็เพลินดี 
เลยรู้สึกว่า 30 บาทที่จ่ายไป ไม่แพงเรย
ถ้าเทียบกับสิ่งที่ได้รับ


หลังจากนั่งข้ามมาอีกฝั่งเขื่อน ก็มาหยุดรถตรงพระพุทธรูปสีขาว
ที่มีชื่อว่า หลวงปู่ใหญ่ป่าสัก ผิดรึป่าวไม่รู้น้าาา จำไม่ได้ 55
แต่แดดก็ร้อนแรงจริงๆ  ไหว้เสร็จ ก็เรยไปนั่งเล่นกับแมว ชิลดี




จอดให้เราลงประมาณ 15 นาที แล้วก็ขึ้นรถกลับฝั่งเดิม
ก็เป็นอันจบทัวร์ รอบเขื่อนป่าสัก




ต่อไป เราจะไปน้ำตกวังก้านเหลือง เราจะไปกิน ส้มตำ ไก่ย่าง
กันที่นัั่น น้ำตกอยู่ห่างออกไปอีก 40 กว่ากิโลเมตร
พอไปถึง มีร้านค้าเยอะมาก และอาหารยอดฮิตเรยคือ
ส้มตำ ไก่ย่าง ข้าวเหนียว ลาบ คอหมูย่าง
มีขายทุกร้าน  เราเรยซื้อเฉพาะ ลาบ กับ ส้มตำ ข้าวเหนียว
เพราะไก่ย่างเรามีแล้ว 

แต่พอเข้ามาในตัวน้ำตก แม่เจ้าาา คนจะเยอะไปไหน
คนเยอะมาก แม้แต่ที่จะนั่งกินยังไม่มี นั่งแบบแออัด
แต่น้ำตกสวยดีนะ แต่คนเยอะนี่แหละ
เรยทำให้บรรยากาศเสียไปเรย 
คือมันเยอะเกินไป เยอะจนน้ำไม่ใส เยอะจนน้ำมีกลิ่น
กลิ่นเหล้าเบียร์ คลุ้งไปหมด มันดูวุ่นวาย
ไม่ได้สงบเรย  อาหารที่ซื้อมา ลาบพอใช้ได้
แต่ส้มตำ นี่คือกินไม่ได้เรย ไม่เข้าใจว่าขายได้หรอ
ตำแบบนี้ มันไม่ใช่แค่พอกินได้ แต่มันกินไม่ได้เรย
มันมีกลิ่น เห้อ ไก่ย่างที่ย่างเองเมื่อเช้าก็ดันไม่สุกอีก
555 อันนี้ไม่โทษใคร ผิดเอง


หลังจากกินเสร็จก็กลับเรย จะได้ไม่ถึง กทม. มืดค่ำ
ขากลับก็นั่งดูพระอาทิตย์ดวงโตแดงๆ ไปในรถนี่แหละ
ก็รุ้สึกดีไปอีกแบบนะ ชอบความรู้สึกแบบนี้จัง



ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้ทำอะไรแบบนี้อีกเมื่อไหร่
แต่ถ้ามีโอกาส ก็ควรมาทำอะไรแบบนี้ดูบ้าง
เวลาในชีวิตเรามีไม่เยอะหรอก
ที่จะใช้มันไปกับ ความสุขแบบนี้
แล้วพบกัน



Popular Posts

Facebook