ชีวิตเริ่ม... เมื่อเริ่ม"ใช้ชีวิต"


โพสต์แนะนำ

ยินดี ปีนัง : hello penang ep.1

สวัสดี ปีนัง             เชื่อว่าหลายๆคน คงมีความฝัน ในชีวิตของตัวเอง   อยากใช้ชีวิตในแบบของตัวเอง อยากทำในสิ่งที่ตัวเองอยากท...

วันพฤหัสบดีที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2562

สงกรานต์ 2019 สุดป่วย สุดเปื่อย 5 วันเต็ม จ.เชียงใหม่



บันทึกการเดิินทาง ณ วันที่ 12-16.04.19

จ.เชียงใหม่




เอาล่ะ ! ขอเล่าเริ่มต้นก่อนว่า เป็นทริปที่ลังเลสุดๆ
ว่าจะไปกระบี่หรือเชีงใหม่ดี  เพราะเชียงใหม่ ตอนนี้อากาศแย่สุดๆ
ค่ามลพิษขึ้นไปถึง 200 แต่ถ้าลงใต้ ก็จะไม่มีการเล่นสงกรานต์
หวยก็เรยไปตก ที่เชียงใหม่ คือ ยอมสูดมลพิษเพื่อได้เล่นสงกรานต์



เอาล่ะ ลุยกันเลย  เลิกจากงาน ก็ให้น้องมาส่งขึ้นรถตรงสี่แยกสวนสมเด็จ
แต่คราวนี้เราชิลกว่านั้น เพราะเรายังไม่ได้จองตั๋วใดๆทั้งสิ้น
ไปซื้อเอาหน้างาน   และเราก็ลองมาขึ้นรถโดยสารครั้งแรก
ช้าหน่อย แต่ถูกดี ค่ารถ 7 บาทเอง ส่งถึง วัดดอนเมือง
ปกติขึ้นวิน ก็ 150-200 หรือไม่แท็กซี่ ก็ร้อยกว่าบาท 
วันหลังถ้าไม่รีบจะมาวิธีนี้แหละ




เมื่อมาถึง ก็เดินข้ามไปสนามบิน ไปซื้อตั๋วหน้าเคาเตอร์
ไปเชียงใหม่กัน เราได้ไฟล์ท 2 ทุ่ม 40 เอาล่ะ
ได้ตั๋วแล้วก็ไปรอขึ้นเครื่องกันเรย




ยังไม่ทันจะ 4 ทุ่ม เราก็อยู่ที่นี่แล้วครับผม จ.เชียงใหม่
เครื่องมาถึงก่อนกำหนด เอาล่ะ ไม่รอช้า รับกระเป๋าแล้วไป
ขึ้นรถเมล์ เข้าเมืองกัน




โดยที่รถเมล์ที่นี่ ต้องเดินออกมาจากสนามบิน เลี้ยวซ้าย
จะมีคิวรถเมล์อยู่ตรงนั้น 20 บาท ต่อครั้ง เป็นอะไรที่คุ้มมาก
แอร์เย็นฉ่ำ มีไวไฟ โดยที่เราไปลงตรงใกล้ๆประตูท่าแพ
และเพื่อนๆจะตามมาในวันพรุ่งนี้ 





เราจองที่พักกันไว้ที่นี่ จำนวน 1 คืน ชื่อว่า sunny hostel
เป็นโฮส ที่ดีมาก เพรียบพร้อมมาก มีทีวีในห้อง ล็อกเกอร์
ห้องนั่งเล่นก็มี 








ไม่รอช้า เก็บของ อาบน้ำ เปลี่ยนชุด
แล้วลงไปชิล ต้องบอกก่อนว่า ตอนนี้ผมป่วยอยู่
นั่นคืออาการปวดหัวข้างเดียว ปวดมาก ต้องนวดคลายตลอด
แต่ตอนนั้นไม่สนละ เดินไปท่าแพ นึกว่าจะมีอะไรขาย
แต่ไม่มี ก็เรยซื้อเบียร์ มานั่งจิบ 555 มานั่งร้านหม่าล่า ข้างๆที่พักนี่แหละ





ซื้อเบียร์ไปสองขวด หม่าล่าอีก 3-4 ไม้
แต่ตอนนั้นอาการยังไม่หายปวดหัว ก็เรยกะจะขึ้นไปนอนพัก
ปรากฏว่าเข้าห้องไป เจอคนจีน เตียงติดกัน 
คุยกันไปกันมา เอ้า ชวนกันไปกินเบียร์ซะงั้น




ชวนกันลงไปข้างล่างนี่แหละ ไปเจอกับกลุ่มพี่เจ้าของโฮส
กะลังกินเหล้ากะฝรั่งอยู่ พี่เค้าบอกมากินด้วยกันเรย
ฟรีค๊าบบ แต่เหล้าเพียว 5555 โคตรได้อ่ะ





กินไปกินมาเริ่มเมา ฝรั่งก็เริ่มเมา 555 คุยกันรุเรื่องบ้าง
ไม่รุบ้าง ก็คุยกันไปโคตรสนุก จนมีฝรั่งคนนึงมาจากลอนดอน
คุยไปคุยมา เค้าถามว่า เคยไปลอนดอนมั๊ย เราก็บอกว่าไม่เคย
เค้าก็ถามว่าแล้วอยากไปมั๊ย เราบอกว่าอยากไปสิ
เค้าเรย จับเข่าคุย ลองไปฟังในคลิปเอาละกัน ฮามาก
กุก็เมาจนจำไรไม่ค่อยได้ 5555
 จนตี 2 กว่า ก็ได้เวลาแล้วล่ะ ขึ้นไปนอน 

และแล้วค่ำคืนที่แสนสนุกสนานก็ผ่านพ้นไป


12.04.19



ต้อนรับเช้าวันใหม่ ด้วยอาการปวดหัว
แต่มันเป็นการปวดหัวไมเกรน และวันนี้กุจะไม่ทน
ตัดสินใจ ออกไปหาไรกินแล้วก็ออกไปซื้อยามากิน
โดยเราไปกินก๋วยเตี๋ยว ที่อยู่ตรงท่าแพ  ดูน่ากินดี รวมแล้ว 60 บาท
แต่อร่อยมาก ใครไปก็ไปแวะกันได้ ร้านนี้









จากนั้นก็ซื้อยา มากิน เป็นยาแก้ปวด 40 บาท
กลัวกัดกระเพาะ เรยจัดบะหมี่ ไปอีกชาม 40 บาท






จากนั้นกลับห้องไปอาบน้ำ เก็บของ เช็คเอาท์ 
เพราะจองไว้อีกที่ 4 วัน รวดดด เพราะสงกรานต์แบบนี้
ไม่ควรย้ายที่พักบ่อย ไม่งั้นกระเป๋าเปียกแน่นอน
ลืมบอกว่าค่าห้องที่นี่ ราคา 160 บาทเอง



จากนั้น ตั้งใจว่าจะขึ้นรถเมล์ 20 บาท ไปที่พัก รอจนครึ่ง ชม.ก็ไม่มา
จะเดินก็ไกล ไกลเพราะปวดหัวนี่แหละ
ถ้าร่างกายปกติ เดินได้สบาย
ก็เลยต้องจำใจเรียกรถแดง เสียไปอีก 30 บาท
ไปลงตรงวัดโลกโมฬี  เพราะเราจองที่พักไว้แถวนี้




ที่พักชื่อ monkey toe hostel เจ้าของเป็นหญิงไทย
นิสัยน่ารักมาก เป็นกันเองมากๆ พอรุว่าเราเป็นคนไทยก็เฮฮา
ตามประสาคนชาติเดียวกัน 


จากนั้นก็เช็คอินที่พัก ส่วนผม ขอนอนพักก่อน 
ด้วยอาการปวดหัว นอนไม่หลับเรยเอาโน๊ตบุคมาเปิดหนังดู
the dog home way โอ้ น้ำตาไหลไปอีกจร้า 5555

พอบ่ายแก่ๆ ก็ได้เวลาลุกไปเที่ยว
เดินเล่นไปเรื่อย จนไปถึง ซอยท่าแพ เรยเดินไปทางวัดพระสิงห์
ไปเจอร้านนวด ชม.120 บาท เชี่ย ถูกจังวะ
เจอเฉาก๊วยนมสด อยู่หน้าวัดพอดี เลยซื้อแล้วถามเค้าว่าร้านนวด
อยู่ไหน เค้าก็เรยชี้ไป ตรงนี้ๆ ก็โอเคร
เดินเข้าไปบอกว่าปวดไมเกรน 
เรยจัดไป 1 ชม.ครึ่ง 180 บาท
นวดดีนะ แต่ก็ยังไม่หาย 5555


ก็เรยนัดกับเพื่อนที่ร้านเดิม moon pie ไปกินเบียร์สด
6 โมง นวดเสร็จก็เดินไปกินเบียร์ต่อ
แต่มันปวดหัวเรยกินได้แค่แก้วเดียว แถมไม่หมดด้วย
ครั้งที่แล้ว ชม.เดียว ล่อไป 3 แก้ว ต่ออีก 1 ทาวน์
แต่มาคราวนี้แก้วเดียว สัสเอ๊ยยยยย



นั่งคุยกันจน 2 ทุ่ม ก็เรยเดินไปเมญ่าต่อ เดินไปเกือบ 4 โล
เพื่อไปดูวงสครับ วงโปรด ซื้อเบียร์กินอีกคนละกระป๋องในงาน
ถ้าไม่ติดว่าป่วยนะแดกยับละ กว่าจะเลิกก็ 5 ทุ่ม เกือบเที่ยงคืน 
ก็นั่งรถแดงกลับ แยกย้ายกัน แล้วไปนั่งกินสุกี้ช้างเผือกต่อ
คนเดียว 2 ชามม 5555 อร่อยมากกก





ค่อยว่ากันใหม่ พรุ่งนี้


13.04.19


วันนี้เอง คือวันแรกของ สงกรานต์ หน้าที่พัก จัดแจงกระแป๋ง
สายยาง ถังน้ำ ไว้ให้เล่นกันได้เต็มที่เรยยยย
มีดีเจ เล่นด้วยวันนี้ วันเดียว
แล้วก็มีบาร์บีคิว ฟรี จร้า ฟรี !!




แต่ตอนเช้า ลุกขึ้นไปแถวข้างหน้า ไปซื้อข้าวไข่เจียวกิน
20 บาท แล้วก็เดินไปซื้อ ปืนฉีดน้ำ อีก 300 บาท
555 ว่าจะไม่ซื้อแล้วนะ





คราวนี้กลับมาเล่นน้ำแถวที่พัก เออก็สนุกไปอีกแบบ 
ก็เลยเล่นมันที่นี่แหละ มีแต่ฝรั่ง
มีบาร์บีคิวกินด้วยย จากนั้นเพื่อนก็มาเล่นน้ำด้วยที่หอพัก
ก็เลยเอาบาร์บีคิวให้กินกัน แล้วพี่เจ้าของก็มานั่งคุยด้วย
คุยกันไปกันมา พี่เค้าจะเลี้ยงเบียร์ 
เราก็เลยบอกว่าไม่เอาพี่ พี่เค้าเรยคิด 50 บาทพอ








ทั้งๆที่กินยาไปแล้ววว แต่ตอนนั้นก็เออ ช่างมัน
กินๆไปเหอะ มาทั้งทีก็ต้องสนุกหน่อย
แต่รู้มั๊ยว่าเบียร์นี่เข้าไปกระตุ้นทำให้มันปวดยิ่งขึ้น
ทรมานแต่ก็ยังกิน 5555


ตกค่ำ แล้วเพื่อนก็เดินไปเมญ่า ไปดูเดอะ ทอย 555
เราไม่อินก็เรย ขอพักดีกว่าคืนนี้ ออกไปหาไรกิน
แล้วก็เข้ามานอน จบไปอีก 1 วัน 
ที่แสนมีความสุข

14.04.19



จริงๆวันนี้ควรต้องไปแกรนด์แคนยอน แต่เพราะปวดหัวไม่หายนี่แหละ
กินยา จนหมดแผงก็แล้ว ยาพาราก็แล้ว
หมดคำจะพูดละ เช้ามาก็เดินไปกินโจ๊กสมเพ็ช 70 บาท
แล้วก็กลับมาพักต่อ ออกมากินข้าวเพื่อกินยา 555
แล้วก็ออกมาอีกทีบ่ายโมง โดยที่วันนี้ เดินไปเล่นคนเดียวที่ ท่าแพเรย
โดยวันนี้มีถนนคนเดิน เชียงใหม่ ก็แวะเข้าไปหาไรกินก่อนไปเล่นน้ำ








ก็ได้ก๋วยเตี๋ยวเรือ 20 บาท เออ อร่อยดีแฮะ
จากนั้นก็เดินไปเล่นน้ำ ตรงที่ฝรั่งเล่นกัน


มันส์สุดๆ จนหายปวดหัวไปเรยยย 
จนเวลาผ่านไปมันก็ค่อยๆกลับมาปวดอีก
แล้วเพื่อนก็ตามมาทีหลัง มาเล่นน้ำกัน
แต่รู้สึกได้เรยว่า ปีนี้ไม่ครึกครื้นเท่าปีที่แล้ว

มันไม่สนุกเหมือนปีก่อน ไม่สนุกอีกแล้ว ผมคิดว่า
คงมาเล่นสงกรานต์ที่นี่เป็นปีสุดท้ายแล้วล่ะ












เอาล่ะ หลังจากเล่นกันจนเย็น เดินไปซื้อโรตีกิน 2 อัน
20 บาท เป็นธรรมเนียม ไปที่ไหนก็ต้องกินโรตี
แล้วก็เดินเล่นที่ถนนคนเดินท่าแพ  เดินจนสุด
ก็ได้เวลาแห่งความสุข ไปโซอี้กัน




ที่นี่ถือว่าเด็ดจัดเรย เบียร์ขวดละ 120 บาท ราคาผับเรยล่ะ
แต่ดนตรี หรือเพลง ถ้าเมาๆ ที่นี่ก็ถือว่าสุดอยู่
แต่ก็นั่นแหละ มันไม่สุดซักวันเพราะอาการป่วยกุเนี่ย
ตอนนั้นรุสึกปวดจนไม่ไหวล่ะ ปืนฉีดน้ำที่วางไว้ก่อนเข้าไปเต้น
ก็หายสาบสูญเรยจร้า ช่างมันเถอะ คงไม่ได้เล่นละ
เกือบเที่ยงคืืนละตอนนั้น ก็เรยเดินกลับกัน
แวะกินโจ๊กสมเพ็ชอีกรอบ เพื่อที่จะกินยาแก้ปวดแล้วนอน
จบไปแบบเปื่อยๆเรยวันนี้







15.04.19

อรุณสวัสดิ์เช้าวันใหม่ 
วันนี้เงียบเหงามาก ไม่ค่อยมีใครออกมาเล่นน้ำเหมือนวันแรก
จนเราเองก็พลอยไม่ได้ทำอะไรไปด้วย 
ที่พักคือเงียบมาก ถังน้ำตั้งไว้แต่ไม่มีใครเล่นแล้วว

ทั้งๆที่ยังอยุ่ในช่วงสงกรานต์อยุ่
จนบ่าย เราก็ออกไปกินข้าวข้างนอก ระวังไม่ให้ตัวเองเปียก
เพราะไม่อยากเล่นแล้ว มันไม่สนุก มันป่วย
มันรุสึกต่างๆนาๆ ไปกินกระเพราไข่ดาว อีก 50 บาท
แต่พอเดินกลับมาที่พักเท่านั้นแหละ
เห็นเจ้าของออกมาสาดน้ำกับฝรั่ง2คน รวมกันเป็น 3
จากนั้นพอผมกลับ ก็เปียกทันทีจากการสาดคนของที่พักตัวเอง
5555 ไหนๆ ก็เปียกละ ก็เล่นด้วยเรยละกัน แล้วสมาชิก
ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากกรณีเดียวกัน คือไม่เปียก
แต่พอเปียกแล้วก็ขอเล่นด้วยเลย 555
กลายเป็นว่าวันนั้นสนุกมาก

มันได้นั่งคุยกันเล่นกัน หัวเราะ มีความสุขจัง
จนพี่เจ้าของถามไม่กินเบียร์หรอ เราก็บอกว่า
กินก็ได้พี่ งั้นเด่วพี่เลี้ยง ใหพี่เลี้ยงเหอะ
นานๆจะมีคนไทยมาพักที และในที่สุดพี่เค้าก็เลี้ยงผมจนได้
แล้วพอค่ำๆก็เดินออกไปกินข้าว ซื้อโรตีกลับมากินอีก 2






กินเสร็จก็ขึ้นไปอาบน้ำ แล้วก็ไป north jazz co op ต่อ
ที่นี่ดังมาก ฝรั่งมากันเยอะมาก ส่วนผม ที่นี่คือรอบที่ 2




และคราวนี้ผมต้องหาเพื่อนคุย มาถึงก็ซื้อเบียร์
แล้วเข้าไปนั่งคุยกะฝรั่ง มาจาก ไอร์แลนด์ 
เป็นเชฟ ชอบทำอาหาร แล้วก็นั่นแหละ
มาไทยครั้งแรก ก็มาเชียงใหม่เลย
เห็นว่าจะอยู่เชียงใหม่ 4 วัน แล้วก็ต่อไปดานัง เวียดนาม
แล้วก็ร้องเพลงไปเรื่อยๆกับวงของเขา
เพื่อนๆเขาจะตามมาในวันพรุ่งนี้

คุยกันไปกันมาจังหวะเพลงก็เริ่มสนุก ก็อย่างที่เห็นว่านี่คือคืนสุดท้าย
ของผม กับจังหวัดนี้แล้ว
ประมาณเที่ยงคืนเราก็ล่ำลากันไป ตามประสาเพื่อนระหว่างทาง
จากนั้้นผมก็กลับมานอน นี่แหละชีวิต
มีแล้วต้องใช้ให้คุ้ม 
แต่รุสึกว่าทริปนี้มันไม่สุดสักอย่าง

จนวันสุดท้ายก็มาถึง

16.04.19







วันนี้ เป็นวันสุดท้าย แล้วก็เป็นวันที่เราต้องเก็บของเช็คเอาท์
พอไดเวลาก็เก็บของลงไปเช็คเอาท์ ฝากกระเป๋า
แล้วก็ออกไปกินข้าวเช้า โดยเราเดินไปที่ นิมมาน
เพื่อไปซื้อของฝากกลับไปให้แฟน ก็เป็นขนมนั่นแหละ





แต่ที่เด็ดคือ เราจะมาเชียงใหม่โดยไม่ได้กินข้าวซอยไม่ได้
ยังไงก็ต้องมาโดน อื้อหือ ยังอร่อยเหมือนเดิมเรยอ่ะ
ข้าวซอยนิมมาน หลังจากนั้นก็เดินออกไปขึ้นรถเมล์ 20 บาท
ไปที่พัก แวะไปเอากระเป๋า แล้วก็ถ่ายรูปกับพี่เจ้าของที่น่ารักทุกคน
แล้วเจอกันใหม่นะครับพี่ๆ
















ที่พักที่นี่ คือเอาใจใส่ แขกมากๆเรย
แอร์อยากเปิดตอนไหนก็ได้  ประตูทุกประตูใช้แค่คีย์การ์ดใบเดียว
ประตูบ้าน ประตูห้อง ตู้ล็อคเกอร์ เปิดแอร์ ใช้คีย์การ์ดใบเดียวพอ
สุดยอดอ่ะ ของกินอยากทำอะไรกินตอนไหนก็ได้ ฟรี

ชา กาแฟ กล้วย มุมพักผ่อน มุมาทำงานมีไฟทุกจุด ดีมากๆอ่ะ
เตียงนอนนุ่ม นอนสบายมาก แอร์เย็น
ให้เต็ม 10 ไปเรย เรื่องความสบายใจ ความประทับใจ

แล้วจะกลับไปพักใหม่ครับ





ได้เวลา ก็ต้องกลับ ก็เดินออกมารอรถเมล์สาย R3 หน้าวัดโลกโมฬี
เพื่อไปสนามบิน ราคา 20 บาท ตลอดสาย ดีโพด


ไปซื้อตั๋วหน้าเคาร์เตอร์ ก็ได้ราคามางามแสนงาม
บินกลับ กทม รอบบ่าย 3 ถึง กทม ก็ 4 โมงกว่า
นั่งแท็กซี่ต่อไปที่พักอีก เป็นอันจบทริปซักที
แต่ที่ไม่จบคือ อาการปวดหัวของผมนี่แหละ


ทนไม่ไหว จนต้องเข้าโรงพยาบาล ตรวจคืนนั้นเลย
หมอจับเจาะเลือด ฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อ
 แล้วก็ทำ CT SCAN สมองคืนนั้นเรย
เป็นครั้งแรก ตื่นเต้นมาก ที่ได้เข้าอุดมงค์สแกนสมอง
แล้วก็ให้ยาฆ่าเชือ กับไอบลูโทเฟนกลับมากิน
แล้วก็นัดวันไปพบใหม่


เป็นไงชีวิตสุดจัดของผม 555+



Popular Posts

Facebook