ชีวิตเริ่ม... เมื่อเริ่ม"ใช้ชีวิต"


โพสต์แนะนำ

ยินดี ปีนัง : hello penang ep.1

สวัสดี ปีนัง             เชื่อว่าหลายๆคน คงมีความฝัน ในชีวิตของตัวเอง   อยากใช้ชีวิตในแบบของตัวเอง อยากทำในสิ่งที่ตัวเองอยากท...

วันพฤหัสบดีที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

กะตะ กะรน : ภูเก็ต


บันทึกการเดินทาง 

ณ วันที่  29-01.12.19

หาด กะตะ กะรน 

จ.ภูเก็ต


เริ่มต้นการเดินทางครั้งใหม่กับเรา คราวนี้เช่นเคย  เราไปไกลกันถึง ภูเก็ต แต่รอบนี้ ขอไปพักผ่อนชิวๆ จิบเบียร์ริมทะเล ว่างั้นเถอะ  ไปคนเดียวอีกเช่นเคย โดยผมได้จองตั๋วนานนับปี 
ไฟล์ท ไป-กลับ กรุงเทพ-ภูเก็ต ได้มาในราคา 450 บาท

เมื่อถึงวันเดินทาง  เราบินมาลงที่ภูเก็ต ประมาณ 9 โมงเช้า จากนั้นต่อรถตู้เข้าเมืองกะตะ ราคา 180 บาท
ขึ้นรถที่หน้าสนามบินภูเก็ต  เมื่อขึ้นรถมาคนขับก็จะขับไปทางตัวเมือง แล้วพาแวะเข้าออฟฟิศ เพื่อเช็คว่าผู้โดยสารแต่ละคนจะลงที่ไหนกันบ้าง จะได้ไล่เรียงลำดับการส่งถูก แล้วก็จะแนะนำทัวร์ให้กับเรา


ถ้าเราไม่สนใจ ก็บอกเค้าไปว่าไม่สนใจ  แค่นี้เอง 
เมื่อตอบคำถามเสร็จ เดินขึ้นรถ แล้วนั่งรถต่อไปอีก เกือบ ชั่วโมง ก็เริ่มไล่ส่งผู้โดยสาร บริเวณ ป่าตอง กะตะ และกะรน บริเวณที่ผมพักอยู่ในบริเวณหาดกะตะ




โดยชื่อโรงแรมที่ผมพักชื่อว่า FIN HOSTEL CO WORKING  รถตู้ได้มาส่งผมเป็นคนสุดท้าย และเหมือนผมจะเป็นคนไทยเพียงคนเดียวบนรถคันนี้  ผมเดินเข้าไปเช็คอิน แต่ยังไม่ถึงเวลาเช็คอิน เนื่องจากผม มาถึงประมาณ 11 โมงกว่า  แต่เช็คอินได้ บ่าย 2 ผมก็เลยทำการฝากกระเป๋า เอาไว้




แล้วออกไปเดินเล่นริมหาด  พร้อมกับเบียร์ขวดเล็กคู่ใจอีก 1 ขวด 555  แล้วก็นั่งโง่ๆริมหาด  เดินเล่นดูราคา นู่นนี่นั่น ริมหาด   ไม่นานก็ผ่านไป 2 ชม.  เลยเดินกลับไปที่พัก เพื่อทำการเช็คอิน ตอนบ่าย 2 พอดี




พอได้เห็นห้องพัก และเตียงนอนแล้ว  อื้อ หือ  คือ มันดีมากเลยเว้ยย เรียกได้ว่าประทับใจเลย กับราคาแค่ 175 บาท ต่อคืน  คือที่นอนใหญ่และสบายมาก  ก็เลยเอาของมาเก็บ แล้วไปอาบน้ำ จากนั้นก็มานอนเล่นจร้า   








แล้วตอน 5 โมงเย็น ก็ซื้อเบียร์ออกไปนั่งจิบ ริมหาดเหมือนเดิม แต่เย็นนี้ออกไปที่หาดกะรน และดูหมือนว่าฝนก็ทำท่าจะตกในวันนี้เช่นกัน  วันนี้ช่างโชคดี ที่พระอาทิตย์ได้โชว์ให้เราไดเห็นแบบเต็มๆ  ซึ่งการมานั่งอยู่ริมหาด ก็เป็นช่วงเวลาที่ฟินไม่น้อย






เมื่อเริ่มหมดแสง  ผมก็เดินกลับไปยังที่พัก เพื่อที่จะหาอะไรกิน แต่ต้องทำใจหน่อยเพราะ ราคาอาหารที่ภูเก็ตมันแพงมหาศาล  และแทบไม่มีร้านข้าวแกง หรือร้านอาหารตามสั่งในราคา 50 บาทอยู่เลย 



แต่เดินหาอยู่ซะนานกลับมาเจอร้านอยู่หน้าที่พักของตัวเอง ในราคา 50 บาท แถมทำกับข้าวอร่อยด้วย  ทำให้เรานี่ฟินเรย เพราะอยู่หน้าที่พักเอง  ไม่อดตายแล้วเรา










วันนี้ก็คงไม่มีอะไรมาก นอกจาก จิบเบียร์ชิวๆ เอาบรรยากาศ และเข้านอนอย่างสบายใจ  มันเป็นช่วงเวลาที่ไม่เลวเลยทีเดียว

มื้อเย็นผมได้สั่งข้าวผัดและต้มข่าไก่มากิน ราคาเพิ่งจะ 130 บาทเอง  หายากนะในภูเก็ต อาหารราคาถูกแบบนี้  แล้วก็เริ่มชวนเจ้าของร้านคุย เรื่องค่าเช่าแพงมั๊ย  อะไรประมาณนี้  คำตอบคือ ค่าเช่าที่แพงมาก แถมต้องเสียค่านู่นี่นั่นรายปีอีก เป็นแสนๆ  แค่พื้นที่ไม่มาก ล็อคละ 40000-60000 กันเลยย

พอค่าเช่าสูง ราคาอาหารมันก็ต้องสูงตาม ก็ส่งผลให้นักท่องเที่ยวก็น้อยลง  เพราะค่าครองชีพเมืองนี้มันแพง  เค้าก็คงมาครั้งเดียวและไม่มากันอีก  เห็นเค้าบอกว่าสมัยก่อนภูเก็ต แทบไม่มีทางเดินกันเลย คือเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว  และไม่มีชาติไหนที่ไม่รู้จักภูเก็ต

คำตอบแบบนี้ก็พอจะทำให้ได้รู้แล้วว่า นักท่องเที่ยวมีตัวเลือกมากขึ้น หันหัวไปเวียดนามและประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น

เมื่อกินเสร็จ ก็ได้เวลาพักผ่อน ขึ้นไปอาบน้ำนอน กันเถอะ  คือตอนนี้พักผ่อนแบบชิวๆ กันเลยจร้า  


30.11.19

เช้าที่แสนชิล  กว่าจะลุกออกจากที่นอนได้ก็ 11 โมงกว่าละ  ออกมาสั่งข้าวผัดกับป้าร้านเดิม ร้านเดียวกันกับเมื่อคืน เป็นข้าวผัดใส่กล่องเอา ไปนั่งกินริมทะเลเหมือนเดิม  คอนเซปแบบเดิมเลย คือไม่ไปไหน ตื่นมาออกไปกินข้าวทะเล ไปดูพระอาทิตย์ตกที่ทะเล ชีวิตมีอยู่แค่นี้จริงๆ





ค่าข้าวผัด 50 บาท ใส่กล่องไปกิน ริมหาด ดูทะเลไปรับลมไปชิวๆ กินเสร็จ ก็เดินเล่นริมหาด เดินไปจนสุด ไปจนถึง surf house ที่เค้าเล่นเซิฟเทียมกันเลยทีเดียว แล้วก็เดินวกเข้าไปในสวนสาธารณะ  เออ บรรยากาศชิวดี  ก็เลยนั่งเล่นซักพัก ก่อนที่จะเดินอ้อมกลับที่พักไปอีกทาง 







คอนเซปเดิม คือ เข้ามาพักที่พักก่อน เพราะอากาศตอนบ่ายนี่มันร้อนจริงๆ แล้วตอนเย็นค่อยออกไปเล่นน้ำทะเลจิบเบียอีกรอบ



พอซัก 5 โมง ครึ่ง ก็ออกไปที่หาด ที่เดิมกับเมื่อเช้าที่ไปกินข้าว ไปพร้อมกับเบียร์อีก 2 ขวด แล้วก็ลงไปว่ายน้ำเล่น ฟินดี  คือที่ผ่านมา มาทะเลแต่ไม่มีโอกาสได้เล่นน้ำเลย  คราวนี้มาชิวๆผ่อนคลาย ก็ลงไปโดดเล่นน้ำเลยจร้า ฟินครับผม


พอขึ้นมาก็กลับชุดนั้นแหละ ไม่ต้องเปลี่ยนชุดใดๆทั้งสิ้น ไว้ไปอาบน้ำที่โรงแรมทีเดียว  ทุกอย่างเหมือนวนไปเหมือนเดิม  เดินกลับมาที่ห้อง ไปอาบน้ำ แล้วก็ลงไปเดินเล่นที่ตลาดกะรน ซึ่งอยู่ข้างๆนี่เอง เดินไปไม่ถึง 50 เมตร ก็ถึงแล้ว โคตรใกล้ เป็นตลาดที่นักท่องเที่ยวนิยม มานั่งกินกันยามค่ำคืน





 


ที่นี่ก็ค่อนข้างชิวเหมือนกัน  เหมาะที่จะมานั่งดื่ม เพราะอาหารเยอะราคาไม่แพง 

ส่วนผมกลับไปปกินข้าวร้านเดิม เพิ่มเติมคือคะน้าหมูกรอบ และข้าวผัดกล่องเมื่อกลางวันที่กินไม่หมด  แถมสั่งโรตีอีก 1 จาน  เพื่อสนองความอยากอาหารของตัวเอง











จากนั้นก็เข้าที่พักเหมือนเดิม ไปนอนเล่น แล้วก็หลับ แอร์เย็นฉ่ำ นอนสบายมาก แถมผ้าห่มก็ผืนใหญ่ แล้วก็มีม่านกั้นส่วนตัวมาาก โดยรวมคือโคตรดี

01.12.19

3 วัน 3 คืน ที่ภูเก็ตแห่งนี้  และวันนี้เป็นวันสุดท้าย  เรามีไฟล์ทกลับเช้าพรุ่งนี้ แต่เราจะย้ายโรงแรมไปพักใกล้ๆสนามบิน   ทำให้เราตื่นขึ้้นมาก็ยังไม่ทำอะไรเหมือนเดิม  พอใกล้เที่ยงก็เก็บของเก็บกระเป๋า เช็คเอาท์ แล้วเอากระเป๋าไปฝากไว้ก่อน แล้วออกไปเดินเล่นหาอะไรกิน   ก็เดินไปแถวหาดนั่นแหละ










แล้วก็ไปเดินเล่นแถวสวนสาธารณะเหมือนเดิม แล้วก็เดินกลับมาที่โรงแรม เอากระเป๋า ไปนั่งรอรถบัส ที่เป็นชัตเติ้ลบัส  ราคา 150 บาท เอง  รับที่หน้าโรงแรมเลย








ใช้เวลาเกือบ 2 ชม. เหมือนกันนะ ผ่านบริเวณป่าตอง ผ่านบริเวณท่องเที่ยวเยอะแยะเรย เราสามารถขึ้นรถชัตเติ้ลบัส ไปลงแหล่งท่องเที่ยวก็ได้  แต่ผมไปเกือบหมดแล้ว  ก็เลยไม่ได้ไปในคราวนี้

เมื่อถึงโซนสนามบิน ก็ลงรถจ่ายตังค์ แล้วก็เดินหาก๋วยเตี๋ยวกินซะหน่อย
ก่อนที่จะเอากระเป๋าไปเช็คอินที่พัก  ที่พักที่นี่แพงกว่าที่เดิมมาก  มีอาหารเช้าแต่เราไม่ได้อยู่กิน ข้างล่างเป็นร้านเหล้า ข้างบนเป็นโรงแรม  บอกเลยว่าห้องแอร์ไม่เย็นเลย ไม่คุ้มค่าเท่าไหร่










แต่ห้องน้ำห้องอาบน้ำถือว่าดี  แต่เสียอย่างเดียวคือแอร์ไม่เย็น 
เมื่อเก็บกระเป๋าเสร็จแล้ว  ก็เดินออกไปเซเว่น ให้ทายว่าผมจะซื้ออะไร  แน่นอนเบียร์อีกแล้วครับท่าน ซื้อเบียร์อีก 2 ขวด แล้วก็เดินไปหาดในยาง








แต่ฝนดันตกอีก คือตกแบบจริงจังเลย โชคดีมีคนทิ้งร่มไว้แถวนั้น แต่มันยังพออใช้การได้บ้าง คราวนี้ก็ต้องเลือกว่าจะเล่นน้ำฝนหรือจะกลับ เพราะมันตกแรงมาก และคงไม่มีทีท่าว่าจะหยุด



คำตอบคือเล่นจร้า  เอาร่มกันพวกกระเป๋าและเสื้อผ้าเอาไว้ ถอดเสื้อผ้ากองไว้แล้ว ลงไปเล่นน้ำทะเล พร้อมขวดเบียร์ในมือ ท่ามกลางฝนที่ตกกระหน่ำอย่างนั้นนั่นแหละ  เป็นประสบการณ์ที่ไม่เคยได้ทำมาก่อนเลย  โคตรชอบฟีลนี้เลยว่ะ 555   ก็เล่นน้ำฝนอยู่คนเดียว จนมืดค่ำ แล้วก็เดินถือรองเท้ากลับ

ฝรั่งหลบฝนมองกันเต็มเลย ว่าไอ้นี่มันบ้าป่าววะ มาเดินตากฝนอะไรคนเดียว  แต่ถามว่าผมสนใจหรอ  หึ  เดินต่อไปจร้า  เดินกลับจนถึงที่พัก แล้วก็โยนร่มทิ้งไป  ขึ้นไปอาบน้ำ



แล้วก็ลงมาหาไรกินเหมือนเดิม  มาสั่งก๋วยเตี๋ยวไก่มะระมากิน แถวๆที่พัก  กินเสร็จผมก็ออกไปเดินเล่น แล้วก็กลับมากินหม่าล่าที่เดิม 555  แล้วถึงจะกลับเข้าไปนอนในที่พัก 


ถ้าไม่ติดว่าพรุ่งนี้ต้องทำงาน ก็คงจะนั่งกินที่บาร์ข้างล่างด้วยนี่แหละ  เพราะต้องตื่นแต่เช้าด้วยอะไรด้วย ก็เลยไว้โอกาสหน้าดีกว่า  แต่บรรยากาศร้านถือว่าใช้ได้เลย 

ยิ่งดึกยิ่งคนเยอะ  พอผมกลับมาถึงห้องทิ้งตัวลงนอน แต่ก็นอนไม่หลับ เพราะแอร์มันไม่เย็น ก็เลยลุกขึ้นไปอาบน้ำอีกรอบ แล้วมานอน พยายามข่มตาให้หลับ แต่มันก็ยังไม่ค่อยหลับ


รู้สึกตัวอีกที ก็นาฬิกาปลุกตอนตี 4 เพราะไฟล์ทบิน บินตอน 6 โมงเช้า  ก็ลุกขึ้นเก็บของไปล้างหน้าแปรงฟัน  แล้วก็ลงไปข้างล่าง





ยังเห็นกลุ่มเจ้าของร้านนั่งกินกันอยู่เลย 555 ผมก็เดินไปเรื่อยๆท่ามกลางความเงียบ จนถึงสนามบิน
แล้วก็เช็คอิน เข้าเกต กลับ กทม.  นี่แหละ ชีวิตพักผ่อน แค่ 3 วันก็เพียงพอละ อิอิ 

ไม่ต้องมีเงินเยอะ ก็สามารถทำให้ตัวเองมีความสุขได้
ทริปนี้คือ มานั่งโง่ๆ ไกลถึงภูเก็ตเรยทีเดียว


Popular Posts

Facebook