ชีวิตเริ่ม... เมื่อเริ่ม"ใช้ชีวิต"


โพสต์แนะนำ

ยินดี ปีนัง : hello penang ep.1

สวัสดี ปีนัง             เชื่อว่าหลายๆคน คงมีความฝัน ในชีวิตของตัวเอง   อยากใช้ชีวิตในแบบของตัวเอง อยากทำในสิ่งที่ตัวเองอยากท...

วันอังคารที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2561

ไป-กลับ กบินทร์-หัวหิน 0 บาท อย่างโหด!!


ทริป วันที่  31.12.16

กบินทร์บุรี-หัวหิน

ขอเริ่มต้นทริปกันที่บ้านซะหน่อย หลังจากที่นัดกับเพื่อนร่วมรุ่น ม.ปลาย ว่าจะไปมีตติ้งกัน
เป็นเหมือนการคืนสู่เหย้าอีกครั้ง  แต่แล้ว  ทุกคน กับติดธุระของตัวเองกันทั้งน้านนเรยย

อย่างว่าแหละ ก็เราไปปีใหม่นี่เนอะ เพื่อนก็คงต้องอยู่กับครอบครัวมันก็ถูกแล้ว
แต่ตอนนั้นเราคิดว่า ปีใหม่คือช่วงที่ทุกคนว่างพร้อมๆกัน น่าจะมาเจอกันได้
แต่คิดผิดจร้าาา  แล้วยังไงต่อล่ะทีนี้.......

เมื่อเราเป็นคนเริ่ม  เราก็ต้องจบมันเอง โดยไปคนเดียวแม่งงงนี่แหละ  


แค่หัวหินเองงงงง แต่สิ่งที่เราทำคือ นั่งรถไฟฟรี ทั้งไปและกลับ  
นี่แหละคือสิ่งที่โหดมากๆ 55555


เราเริ่มต้นกันที่สถานีกบินทร์บุรี  นั่งชิวไปเรื่อย วันนี้รถขาเข้ากรุงเทพ คนค่อนข้างน้อยย
นั่งไปเรืื่อยๆ  ในวันสิ้นปี เพื่อไปเคาท์ดาวน์ที่หัวหิน   มันเหงาๆแปลกๆ

ใช้เวลาประมาณ 4-5 ชม.  เราก็มาถึง กทม. ในรอบเวลาเกือบเที่ยง  เราต้องรีบเข้าไป
ซื้อตั๋วฟรี ต่อไปหัวหินในรอบ บ่ายโมง  แต่พนักงานขายตั๋วบอกว่า 
ตอนนี้มีแต่ตั๋วยืนแล้วนะครับ  เราบอกไม่เป็นไร ยืนก็ยืน  จากนั้นได้ตั๋วมา
ก็มานั่งกินข้าวรอรถไฟ ฆ่าเวลากันในโรงอาหารหัวลำโพง

หลังได้เวลา ก็เดินไปขึ้นรถไฟ แต่ คนแน่นมากกกกก เต็มทุกพื้นที่ เราคงต้องยืน
ไปจนถึงหัวหินสินะ 5 ชม. แม่เจ้าาาา แม้แต่ที่จะหลบนั่งยังไม่มี  


แต่...แล้ว ก็มีเสียงคุณป้า ใจดี เรียกว่า หนูๆ มานั่งตรงนี้มา   มีคนเค้าไม่มา
ป้าซื้อตั๋วไว้ให้เค้า แต่เค้าไม่มานั่นเอง  นี่แหละเสน่ห์การเดินทาง ที่เราสามารถพบเจอ
ได้เมื่อเราออกเดินทาง  หลังจากที่ได้นั่ง เราก้ขอบคุณป้ามากๆ จริงๆมีตั้งหลายคนที่ได้ยืน
แต่ทำไมเค้าเลือกเรานะ  อาจเป็นเพราะเค้าสงสารมั้ง ที่เห็นเรานั่งอยู่ตรงปากประตูรถไฟ
คนจะเดินเข้าออกก็แทบจะเหยียบหัวแล้วล่ะ  5555  

จากนั้นป้าๆก็เริ่มคุยกัน  เค้าบอกว่า เค้าขึ้นรถไฟสายนี้มา 20-30 ปีแล้ว  นั่งรถไฟไปสุไหงโกลก
โอ้โห  เราถามว่าไปถึง สุไหงกี่โมงครับ ป้าบอกว่า ถึง ประมาณเที่ยงพรุ่งนี้  
เดี๋ยว ป้า นี่เพิ่งจะบ่าย2 เองนะป้า  สุดยอดไปเลย นั่งข้ามวันข้ามคืน

ด้วยความที่คุยกันเพลินเวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว แล้วรถไฟก็มาถึงหัวหินประมาณ 6 โมงเย็น
เดินลงมาจากรถไฟฟรี เราก็เดินต่อไปที่ตลาดโต้รุ่งหัวหินเรย  เดินเล่นสักพัก 
ไปตลาดจั๊กจั่นต่อดีกว่า ขึ้นรถโดยสารไป ราคา 20 บาท  





วันนี้คึกคักหน่อย แต่ไม่ถึงกับรื่นเริง เพราะอยู่ในช่วงอาลัย ในหลวง อยู่ ปีนี้จึงดูเงียบเหงามากกว่าทุกปี
ที่ตลาดไอเดียแห่งนี้ สิ่งที่ชอบก็คือ  ทุกอย่างแฮนด์เมดแทบจะทั้งหมด






เป็นงานฝีมือล้วนๆ  ซึ่งเราเองก็ชอบงานฝีมืออยู่แล้ว ไปนั่งฟังเพลง ที่เป็นวัยรุ่นแต่เล่นเพลงรุ่นพ่อ
โคตรคลาสสิคอ่ะ นั่งไปเพลินๆ จะ 5 ทุ่มละจร้า  เราคงต้องหาที่เคาท์ดาวน์
เห็นเค้าบอกว่าจัดที่ ห้างในหัวหิน ก็เลยเดินข้ามไปรอรถโดยสารเหมือนเดิม 






แล้วบอกเค้าให้ไปจอดที่หน้าห้าง  สุดท้ายเราก็มาถึง เป็นลานเบียร์สด อากาศก็ดีเบียร์ก็มี
ดนตรีก็ดัง แหม่ฟินเรย แบบนี้ แต่อย่างว่าแหละ มาคนเดียว 555





เลยนั่งจิบเบียร์ฟังไปเพลินๆ เหมือนฟ้าฝนเป็นใจ ฝนตกลงมาซะงั้น แต่แล้วก็มีคุณลุงใจดีอีกแล้ว
บอกน้องมานั่งกับพี่ก็ได้  เค้าชวนเราทั้งๆที่ไม่รุจักไม่เคยคุยกันมาก่อน 
คือโต๊ะพี่เค้าอยู่ในร่ม แล้วอีกอย่างพี่เค้าก็มาคนเดียว  เราก็เลยย้ายไปนั่งกับพี่เค้า




แล้วก็เริ่มคุยว่าพี่มาคนเดียวหรอ  เค้าบอกใช่ พี่มาคนเดียว แต่แปลกใจ
ทำไมมีแก้ว 2 แก้ว แถมมีเบียร์ทั้ง 2 แก้ว ตอนนี้เราเริ่มเกรงใจพี่เค้าแล้ว
นึกว่าเค้าคงจะมากะใครสักคน ก็เลยลองถามดู ว่าแล้วนี่แก้วใครอ่ะพี่  พี่เค้าบอกว่า
แก้วแฟนพี่เอง  อ้าว ไหนบอกมาคนเดียววไง  

แฟนพี่เค้าเพิ่งเสีย เมื่ออาทิตย์ที่แล้วว เรานี่ช็อคไปเลยย ไม่เคยเจออะไรแบบนี้
จนเราตั้งสติได้ ก็เลยถามพี่ไปว่า เค้าเป็นอะไร ยังไง พี่เค้าบอกว่า แฟนเค้าเส้นเลือดในสมองแตก
แล้วก็ล้มไปเลยย  พี่เค้าบอกว่า ปกติ วันนี้ต้องเป็นวันที่เค้ามานั่งกินเบียร์กะแฟนเค้า 
เอาซะเราเศร้าไปเลย ตอนนั้น  แต่ยิ่งเศร้ากว่านี้ เมื่อพี่เค้าพูดมาประโยคนึง
ยังจำได้ถึงทุกวันนี้ คือ พี่อยากขอเพลงให้แฟนพี่นะ  แต่พี่กกลัวคนในงานเค้าจะไม่สนุก



แน่นอนว่าในงานปีใหม่แบบนี้ มีแต่เสียงหัวเราะ เสียงเฮฮา แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีความสุขในวันปีใหม่เสมอไป  ยังไงผมก็ขอให้พี่ผ่านเรื่องราวนี้ไปให้ได้  ทุกอย่างมีเกิดก็ต้องมีดับ ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าจะถึงเวลาของเราในวันไหน เวลาไหน  อย่าคิดว่าตัวเรามีเวลาเหลือเฟือ เพราะไม่มีใครรู้เลยว่าวันไหน
จะเป็นนวันสุดท้ายของชีวิต  เพราะฉะนั้นในวันที่เรายังอยู่ก็ทำในสิ่งที่มันควรทำ ทำให้ดีที่สุด
ทำให้เต็มที่แล้วเราจะได้ไม่เสียใจในวันที่ไม่มีโอกาสได้ทำ เอาล่ะ บ่นมาซะเยอะ  ก็ถึงเวลาเที่ยงคืนตรง
กะลังจะข้ามเปลี่ยนเป็นปี 2017  ทุกคนยืนตรง เมื่อได้ยินเสียงเพลงสรรเสิญพระบารมี แทนเพลงhappy new year  ทุกคนยืนตรงพร้อมใจกันร้องเพลง  ไม่มีเสียงฮาเฮใดๆ เนื่องจากปีนี้เป็นปีแห่งการสูญเสียยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศ  เราจึงได้น้อมรำลึกถึงในหลวงรัชกาลที่ 9 แทน 

เมื่อสิ้นสุดเสียงเพลง ทุกคนก็เริ่มกลับบ้าน ผมนั่งต่ออีกสักแป๊ป ก็ต้องขอตัวพี่เค้ากลับแล้ว
เดี๋ยวจะไม่ทันรอบรถไฟ  นั่งรถโดยสารไปอีก 20 บาท ไปส่งที่สถานี  จากนั้้น เดินเข้าไปเอาตั๋ว
ได้ตั๋วรถไฟรอบ 00.45 น.  จากนั้นเราก็ไปล้างรอก่อนรถไฟจะมา พอรถไฟมา ก็โดดขึ้นเรยครับ
คนบางตา เนื่องจากเป็นขากลับ กทม. ทำให้เรายังพอนอนงีบได้บ้าง แต่เบาะก็แข็งตรงซะขนาดนั้น
หนาวก็หนาวจากลมเย็นที่พัดผ่านเข้าทางหน้าต่างเต็มๆ  จากนั้น ประมาณ 6 โมง ก็ถึง หัวลำโพง
รีบลงรถแล้วไปเอาตั๋วฟรี กทม.-อรัญ ในรอบ6โมงครึ่งทันที  ทุกอย่างเกิดขึ้นแบบต่อเนื่อง


จนนี่เช้าของอีกวันแล้วสินะ เราก็ยังไม่ได้นอนเลย 5555  โดดขึ้นรถไฟกลับบ้าน แต่เต็มไปด้วยคนแน่นรถไฟ  เนื่องจากยังกลับบ้านกันไม่หมด เราก็นั่งเบียดๆกัน อบอุ่นดี ข้างทางวิวก็สวยเอามากๆ
แต่ตาของผมนั้นจะปิดแลล้วค้าบ  วิวข้างทางในวันขึ้นปีใใหม่ นี่มันช่างทำให้ใจพองโตซะจิงๆ
คราวหลังจะไม่คิดทริปแบบนี้แล้วนะ  5555  ประมาณ 10 โมง ครึ่ง ก็มาถึง สถานีกบินทร์บุรี นั่งรถโดยสารต่อเข้าบ้านอีก 2 ต่อ ถึงบ้านเที่ยง  อาบน้ำและนอน อย่างสบายใจในวันแรกของปี 2017
ตื่นมาอีกที 5 โมงเย็นแล้ววว 5555   นี่ขนาดแค่คิดตามยังเหนื่อยเรย แต่เราได้ผ่านจุดนั้นมาเรียบร้อยแล้วค้าบบบ  ไว้เจอกันใหม่ทริปหน้าน๊าาาา   



Popular Posts

Facebook