ชีวิตเริ่ม... เมื่อเริ่ม"ใช้ชีวิต"

Latest Posts


โพสต์แนะนำ

ยินดี ปีนัง : hello penang ep.1

สวัสดี ปีนัง             เชื่อว่าหลายๆคน คงมีความฝัน ในชีวิตของตัวเอง   อยากใช้ชีวิตในแบบของตัวเอง อยากทำในสิ่งที่ตัวเองอยากท...

วันพฤหัสบดีที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567

ชีวิตติดลบ ที่ฮอกไกโด EP.3



 DAY 3

เช้าวันที่ 3 ในฮอกไกโด มื้อเช้านี้เราได้น้ำส้ม ซึ่งอร่อยมาก

อร่อยกว่าที่ไทยเยอะเลย อร่อยกว่าน้ำส้มทั่วๆไป ไปลองชิมดู

แล้วก็ทาร์ตชีส หอมมาก

ครัวซองแฮมชีสก็อร่อย และนี่คือมื้อเช้าก่อนเดินทางไปข้างนอก












เช้านี้ หิมะตกในเมืองเรียบร้อยแล้ว ดีใจสุดๆ 
เก็บบรรยากาศกันเถอะ  ตามถนนเต็มไปด้วยหิมะ



ต้องอธิบายความฟินนี้ยังไงดีนะ





แพลนเราวันนี้ก็คือ เราจะไป เมืองโอตารุ ไปเช้าเย็นกลับ
แต่ระหว่างทาง ก็อยากแวะไปดู ของแคมป์ปิ้งของญี่ปุ่นด้วย
ก็เลยนั่งรถไฟ สายสีส้ม ขึ้นสถานี โอโดริ ไป มิยาโนซาวา
แล้วหลังจากนั้นค่อยเดินไป Alpen ซึ่งเป็นห้างที่ขายของ Outdoor

ราคาก็ 290 เยนเหมือนเดิม  แต่พอขึ้นมาบนดิน 
เชี่ย นี่มันคือชนบท  ย่านชานเมืองชัดๆ ไม่มีนักท่องเที่ยวเลย 
มีแต่ คนท้องถิ่นเท่านั้น แล้วบ้านเมืองเค้าก็สวยงามมาก







มองไปทางไหน ก็สวยงามไปหมด ชอบมาก ไม่วุ่นวายดี



ก็เดินไป ถ่ายรูปไป ชิลๆ หนาวแหละ 
แต่วันนี้ยังได้เห็นแสงพระอาทิตย์แฮะ



เป็น การเดิน 1 กิโลเมตร ที่ไม่เบื่อเลย


ระหว่างทาง เห็นเหมือนทะเลหิมะ เลยเข้าไปวิ่งเล่น
ก็เป็นรอยเท้าอย่างที่เห็น ชอบมากๆเลย กับบรรยากาศแบบนี้






จากนั้นพอใกล้ถึง เราแวะเข้าห้างกันก่อน เข้าห้องน้ำไรให้เรียบร้อย
แล้วก็เดินเล่นในห้าง












ภารกิจถัดไป หาทางออกจากห้างแล้วก็ข้ามถนนไป 
ก็จะเป็นร้านที่เราตั้งใจเดินมาแล้ว 


พอเดินข้ามถนนมา ก็เข้ามาข้างใน
ก็จะมีของแบรนด์ต่างๆ เรามาดูยี่ห้อ SNOW PEAK ซึ่งเป็น
แบรนด์ดังของญี่ปุ่น แต่พอไปดูราคา ก็ยังแพงอยู่ดี แต่ถูกกว่าไทย 



ยี่ห้อดังๆ อย่าง SUMMIT SERIES


The North Face
ทุกวันนี้ก็กลายเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น









ยี่ห้อนอร์ดิก ก็ดังนะ ของประเทศ นอร์เวย์
ทางไปห้องน้ำ ก็สวยงามอลังการสุดๆ



ถ้าเดินขึ้นไปชั้น 2 จะเป็นลานจอดรถ



อย่างน้อยก็ได้มาเห็น ได้มาดู ถึงแม้จะไม่ได้อะไรกลับไปก็ตาม

ภารกิจถัดไป เดินไปขึ้นรถไฟ JR เพื่อไป เมืองโอตารุ

เราเดินมาขึ้นรถไฟ แถวๆนั้น เป็นสถานี JR 

ซื้อตั๋วต่อไปยัง OTARU ราคาประมาณ คนละ 720 เยน








ซื้อตั๋วเสร็จ ก็เข้ามานั่งรอรถไฟ 
ไม่นานรถไฟก็มา แล้วก็ขึ้น ชมวิว บนรถไฟไปเรื่อยๆเลยทีนี้




ข้างทาง ระหว่างที่นั่งรถไฟไป ก็จะเห็นวิวทะเล
ซึ่งวันนี้ ลมแรงนะ แต่ที่อึ้งคือ มีคนออกมาเล่นเซิร์ฟ
กับอากาศติดลบแบบนี้ คือ ยอมใจจริงๆ

ใช้เวลานั่งประมาณ 40 นาที ก็ถึงสถานี โอตารุ แล้ว

จากนั้นเดินออกมาหาที่กดตังค์ 
แต่หาไม่เจอนะ แต่ความจริงคืออยู่แถวนั้นแหละ
แต่เราหาไม่เจอเอง ให้กดตู้  7 BANK นะ จะไม่เสียค่าธรรมเนียม
ถ้าตู้อื่นจะเสียค่าธรรมเนียม ประมาณ 180 เยนนะ

พวกเราก็เลือกที่จะไม่กด โดยใช้บัตรจ่ายไปก่อน



พอเดินออกมาจากสถานี คือ ลมก็แรง หนาวก็หนาว
หิวด้วย ยังไม่ได้กินอะไร
เลยแวะเข้า Lawson หลบหนาว ซื้อข้าวกินในนี้นี่แหละ
แต่วิวกินข้าวคือดีมาก หิมะก็ตกตอนที่เรานั่งกินข้าว
ช่างเป็นมื้ออาหารที่ธรรมดา แต่พิเศษมากๆเลยล่ะ









ในระหว่างที่เราเดินไปก็จะถ่ายรูปกับสถานที่สำคัญเช่นรางรถไฟสายเก่า
ร้านพิซซ่า ถ่ายทำไม 555 ร้านแฮนเมด ที่เค้าเอาออกมาขาย
นอกร้านตกหิมะกันแบบนี้เลย น่ารักไปอีก








เดินไป ถ่ายรูปไปด้วย ก็สนุกดีนะ
เป็นความทรงจำที่ดี


เดินมาเรื่อยๆ ก็จะเห็นรูปปั้น สุนัขตัวนี้
ก็แสดงว่าเรามาถึงคลอง โอตารุแล้ว
ก็เดินเลียบคลองไปเรื่อยๆ
ไปยังจุดไฮไลท์ ถ่ายรูป









ระหว่างเดินมา วันนี้คือมันหนาวจริงๆ เพราะลมแรงด้วย
เราเลยต้องหาที่หลบหนาวตลอด มีอยู่ช่วงนึงแอบไปหาตู้กดเงิน

แต่ที่นี่ไม่มีเซเว่นเลย กดที่ไหนก็เสียค่าธรรมเนียม
เลยไม่ได้กด 555 มาลองดูในแมพ ถึงได้รู้ว่ามันมีตู้อยู่ที่สถานี
แต่เราไม่ได้ออกตรงประตูนั้น เรามาออกประตู Macdonal




เราก็เดินขข้ามไปถ่ายรูป จนเราเดินมาอีกฝั่ง รู้สึกว่าจะเดินผ่าน
คนใส่ชุดสีฟ้า แบบเดินผ่านหลังกันเลยนะ
หน้าตาเหมือนเบลลาเลย คิดในใจ พอมองกลับไป
โอ้  แฟนคลับเต็มเลย  คือ เจอกันง่ายๆแบบนี้เลยหรอ













ตัวจริง ตัวเล็กๆ น่ารักดี ใดๆคือแฟนคลับตามมาจากไทย
แต่เรา ผู้บังเอิญมาเจอกันพอดี สาบานว่า เบลลา
มาแค่ 30 นาที แต่ดันมาเจอกัน งงมาก 
555 อิหยังวะ

มันหนาวจริงๆเลยเข้ามาหลบหนาวในร้านค้า
ก็เข้ามาเจอ Cocao Cat อีกแล้ว








ในร้านค้าก็จะอารมณ์งานศิลปะ แกลอรี ประมาณนั้นเลย


แต่พอเดินออกมาข้างนอก เดินไปเรื่อยๆระหว่างทางคือสวยมาก





ยามเย็นแสงสวยอยู่นะที่นี่





ชอบบรรยากาศยามเย็นที่นี่มากๆเลยอ่ะ
ไม่น่าเชื่อว่าเราจะมายืนดูความสวยงามอยู่ตรงนี้ได้
ปรบมือให้ตัวเอง



แล้วเราก็เดินเข้ามาในร้านขายของฝาก ให้อารมณ์ครันทรีสุดๆ





แต่อย่าเผลอไปทำของเค้าแตกเชียวล่ะ








เพราะเค้าจะวาง ไว้แบบหมื่นมาก ถ้ากระแทกนิดเดียวคือร่วงแน่นอน
ต้องระวังมาก  คนมาเที่ยวต้องระวังเองนะ
ต้องรับผิดชอบตัวเอง









เข้ามาในร้านคริสมาสต์ร้านนี้
เป็นงานเป่าแก้ว ซึ่งเป็นงานหลักของที่นี่เลย
ที่โอตารุ เลยได้กลับมาตัวนึง เกือบ 100 บาท








ในที่สุดเราก็ได้ของฝากจากโอตารุ





หลังจากซื้อของฝากเรียบร้อยก็ประมาณ 5 โมงกว่าแล้ว 
ระหว่างทางเดินกลับ ก็ผ่านคลองโอตารุ ตอนค่ำพอดี
ก็เลยแวะถ่ายรูปกับคลองโอตารุ ตอนเปิดไฟอีกครั้งนึง



ได้เวลา
เดินกลับไปยังสถานีรถไฟ ซื้อตั๋ว JR กลับ ซัปโปะโระ ประมาณ 920 เยน
ก็ราคาดีอยู่นะ 200 กว่าบาท

ใช้เวลาประมาณชั่วโมงกว่า ก็มาถึงซัปโปะโระ
แล้วก็เดินใต้ดินเอา จะได้ดูร้านหาของกินด้วย
 



สุดท้ายมาจบที่ร้านข้าวหน้าหมูร้านนี้ ซึ่งถูกมาก
ราคา 400 เยนเอง


และนี่คือหน้าตาอาหารของเรา
จะขาดเบียร์ไปก็กะไรอยู่  เราสั่งเป็นเซต 550 เยน ได้ซุปกะสลัดเพิ่ม






เช็คบิลออกมา 1140 เยนสำหรับ 2 คน ว้าว ไม่ถึง 300 บาท สำหรับ 2 คน


จากนั้นเราก็เดินไป เข้าซุปเปอร์มาเก็ต
คล้ายๆ แม็กแวลู เจออาหารลดราคาอีก 40% 
ก็เอาไว้กิน พรุ่งนี้เช้า ที่โรงแรมมีไมโครเวฟ ให้อุ่นอาหารด้วย



จากกล่องละ 100 เหลือกล่องละ 60 บาท ไว้กินมื้อเช้าพรุ่งนี้
นี่คืออยู่จน ใช้ชีวิตเหมือนคนญี่ปุ่นไปแล้ว 555

และค่ำคืนนี้ก็หนาวระดับ -7 คือหน้าชาอ่ะ















Popular Posts

Facebook