ชีวิตเริ่ม... เมื่อเริ่ม"ใช้ชีวิต"


โพสต์แนะนำ

ยินดี ปีนัง : hello penang ep.1

สวัสดี ปีนัง             เชื่อว่าหลายๆคน คงมีความฝัน ในชีวิตของตัวเอง   อยากใช้ชีวิตในแบบของตัวเอง อยากทำในสิ่งที่ตัวเองอยากท...

วันพุธที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2567

ชีวิตติดลบ ที่ฮอกไกโด EP.1

 ชีวิตติดลบ ที่ฮอกไกโด

ทริปวันที่ 15-21.12.23


วันที่ 14 ธันวาคม 2023











เริ่มต้นวันนี้ด้วยการมานั่งชิล ร้านกาแฟ
วางแผน แลกตังค์เป็นเงินเยน บางส่วน
ก่อนที่จะไปใช้บัตรรูดที่นู่น



พอ 20.00 พวกเราก็เริ่มออกเดินทาง นั่งแท็กซี่มาสนามบินดอนเมือง
150 บาท รวมทิป 
แล้วลากกระเป๋าขึ้นอาคาร โรงแรมอมารี ดอนเมืองข้ามไป
ขึ้นรถชัตเติลบัส ฟรี ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ
ต้องมีบอร์ดดิ้งพาส สุวรรณภูมิ เท่านั้น ถึงจะได้ขึ้นสายนี้




บนรถก็จะเต็มไปด้วยคนเยอะแยะมากมาย ที่ต่างก็ต้องเดินทาง
ไปสุวรรณภูมิ มีรถติดบ้างเล็กๆน้อยๆ  เรามาถึงสนามบินประมาณ 4 ทุ่มนิดๆ
เคาเตอร์ ยังไม่เปิดให้เชคอิน ก็นั่งรอ
นั่งถ่ายรูปกันไปก่อน  5 ทุ่ม พอเปิดให้เช็คอินได้ ก็เอากระเป๋าไปโหลด

เรามีน้ำหนักที่โหลดได้กันคนละ 25 Kg
ซึ่ง กระเป๋ารวมกันทั้งหมด น่าจะประมาณ 30 KG เท่านั้น
เหลือให้ขนของกลับบ้านได้อีก 20 KG



ไฟล์ทของเราคือ ซัปโปะโระ ขึ้นเครื่อง ตี 2 


โหลดกระเป๋าเรียบร้อย ก็ไปซื้อของกินในเซเว่นก่อนผ่าน ตม. ขาออก
กว่าจะผ่าน ตม. ขาออกมาได้ คือ นานมาก
เกือบ ชม. ทำให้เราต้องรีบเดินไปที่เกต ซึ่งอยู่อีกอาคารนึง
ต้องนั่งรถไฟฟ้าเชื่อมไปอีกอาคาร 

ก็ใช้เวลาพอสมควรนะ
เพราะระหว่างทาง ก็มี Shop duty free สินค้าปลอดภาษี
ล่อตาล่อใจเราอยู่ สิ่งที่เราสนใจคือ น้ำหอม 
Burberry กลิ่น Goddess ซึ่งเป็นกลิ่นที่ตามหามานานมาก
แต่ก็ยังทำใจซื้อไม่ลง คือมันก็ยังแพงอยู่ดี ถึงแม้จะปลอดภาษีแล้ว
ขวดนึง ก็ 4-5 พัน ถ้าในเน็ต ก็ประมาณ 6 พันกว่า



ไหนๆก็เข้าไปแล้วก็ขอฉีดให้หาย คิดถึงกลิ่นนี้หน่อย
คือตามซื้ออยู่กลิ่นเดียวเลย  ไม่ใช่คนที่ติดแบรนด์นะ
แต่ชอบกลิ่นลักษณะนี้ แล้วมันไม่สามารถหาซื้อที่ไหนได้จริงๆ
แม้จะของปลอมก็ยังไม่เหมือนอยู่ดี



ระหว่างเดินไปเกต ก็จะมีสิ่งล่อตา ระหว่างทางมากมาย
ก็โอเคนะ มันก็เป็นบรรยากาศ ที่ดีระหว่างเดินไป
คือเพลินมาก และเสียเวลา ไปไม่ถึงซักที





พอเดินมาถึงเกต ก็หาที่นั่งชาร์จแบตกันก่อน
วันนี้รู้สึกเครื่องจะดีเลย์ ก็นั่นแหละ นั่งรอกันต่อไป
กรอกน้ำเปล่าขึ้นไปกินบนเครื่อง เพราะเราต้องนั่งต่อกันยาวๆ
7-8 ชม. ถึงนู่นน่าจะ 10 โมงกว่าๆ



ประมาณ ตี 2 เกือบตี 3 ก็ได้เวลาขึ้นเครื่อง

แล้วก็อาศัยนอนบนเครื่องแต่ก็ไม่ได้หลับสนิทขนาดนั้นหรอก

แต่ก็ต้องนอน เพราะ พรุ่งนี้ เรายังต้องเดินทางกันต่อ ราตรีสวัสดิ์


วันที่ 15.12.2023








และนี่คือสนามบิน นิว ชิโตเสะ เกาะฮอกไกโด มาถึงก็เจอหิมะเลย
แต่ในเครื่องยังอุ่นอยู่นะ จะรู้ก็ต่อเมื่อลงเครื่อง ว่าอุณหภูมิภายนอกประมาณเท่าไหร่



ออกจากเครื่องได้ก็เข้าห้องน้ำ ทำธุระส่วนตัวก่อน
ไม่รีบครับ เพราะไม่ได้มากะทัวร์
ซึ่งที่นี่ ส่วนใหญ่คนไทยจะมากะทัวร์กันเยอะ
เพราะค่อนข้างเดินทางลำบากถ้าไม่เช่ารถส่วนตัว
ซึ่งเราก็ไม่เช่า 5555 ซึ่งน่าจะทุลักทุเลเลยล่ะ


จากนั้นก็เดินตามป้ายไปเรื่อยๆ เพื่อไปยัง ตม. 
ซึ่งมี QR code แล้ว คือสะดวกมาก ไม่ถึงนาทีคือผ่านได้สบาย
จากนั้น ไปรับกระเป๋า แล้วก็ คิวอาร์โค๊ด ดีแคร์กระเป๋าอีกรอบ
ก็ออกมาจาก ตม ได้เรียบร้อย ได้เข้าประเทศอย่างสมบูรณ์





ออกมาได้เรายังคงเดินเล่นกันในสนามบิน แบบสบายใจ
คือเดินไปทั่วจริงๆ ถ่ายรูปกับพี่ม่อน  คือที่นี่ โดเรมอน คือพระเอกของที่นี่เลย
ใครชอบโดเรมอน ก็ต้องที่นี่แล้วแหละ













นมฮอกไกโด กล่องแรกที่สนามบิน ราคา 25 บาท
ไม่แพง แถมอร่อยมาก หอมนมฮอกไกโด



LAWSON หน้าทางออกสนามบิน  จากนั้นเราเดินไปทาง LAWSON 
ไปตามป้าย Bus station ไปยังชั้น 1 แล้วก็เดินไปบอกพนักงาน
ว่าเราต้องการไป ซัปโปะโระ  เค้าจะบริการมากดตู้กดตั๋วให้เรา

เราก็แค่บอกว่าจะไปลงที่ไหน ก็บอกไปว่าซูซูกิโนะ
2 คน แบบเที่ยวเดียว ตกคนละ 1300 เยน 
ซื้อเสร็จ ยังไม่ทันได้นั่ง รถบัสมาพอดี

ลากกระเป๋า ไปโหลดไว้ใต้บัส
แล้วก็ขึ้นรถ เก็บตั๋วไว้ ค่อยให้ตอนลงรถ
ที่นั่งว่างตรงไหน นั่งได้เลย ข้อดีของรถบัสคือ มีที่นั่งแน่นอน
แต่ถ้า JR แพงกว่า เร็วกว่า แต่บางทีอาจจะได้ยืน 
ถ้าที่นั่งเต็ม



บนรถก็จะมีที่ชาร์จไฟให้ สะดวกสบายมาก เบาะมีระบบอุ่นตูดด้วย
วิวข้างทางก็ดี นี่สินะ ชีวิตแบบฮอกไกโด
ลืมบอกไปว่าระหว่างที่ออกจากสนาามบิน มาขึ้นบัส
คืออากาศข้างนอกนี่สะท้านแบบสุดๆ 
ต่างกับอากาศในสนามบิน จาก 25 องศาข้างใน มาติดลบข้างนอก
ที่นี่จึงต้องทำประตู้ 2 ชั้นไว้ทุกร้านเพื่อกันอากาศเย็น
เข้ามาภายในไว้อีกชั้นนึง







นั่งรถประมาณ 1 ชม นิดๆ ก็มาถึง Suzukino เราต้องคืนตั๋วให้พนักงาน
ลงมาเอากระเป๋า บอกเลยว่าตอนลงมาเจออากาศข้างนอก
คือแทบร้อง  แม่งหนวแบบสุดๆ

ขนาดแค่จะเปิด GPS ไปโรงแรม ยังหนาวมือ
ต้องรีบเดินไปโรงแรม ซึ่งอยู่ห่างประมาณ 800 เมตร
ไกลอยู่นะ แต่ก็ต้องเดินไปให้ถึงแหละ

ในที่สุดเราก็มาถึง 
เราพักกันที่ T MARK HOTEL
ไปทำการเช็คอิน เราได้ห้อง 1408 เป็นยังไง เดี๋ยวไปดู



ห้องน้ำเล็ก แต่ครบครันสุดๆ แชมพูทุกอย่าง มีหมด โฟมล้างหน้ายังมี
ฟองน้ำขัดตัว หวี มีดโกน ยาสีฟัน แปรงสีฟัน ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว
น้ำอุ่น น้ำเย็น แถมน้ำที่นี่สามารถดื่มได้จากก็อกน้ำเลย
การันตีจากโรงแรมแล้วว่าสามารถดื่มได้

บ้านเราอาจจะไม่ชิน แต่เราทำแบบนั้นตลอดการพักที่นี่


ส่วนในห้องมีครบทุกอย่าง ชุดนอน ที่แขวนเสื้อกันหนาว โต๊ะเครื่องแป้ง
ไดร์เป่า รองเท้าแตะ ตู้เย็น กาน้ำร้อน ชากาแฟ ชาเขียว สเปร์ยดับกลิ่น
เครื่องฟอกอากาศ ฮีตเตอร์ ไฟหัวนอน ที่ชาร์จแบตหลายจุด



เอาจริงๆนะ ครบครันสุดๆ มีไมโครเวฟ อยู่ด้านล่าง ไวไฟแรงมาก
แล้วก็น้ำแข็งเปล่าสามารถกดได้ฟรีเลย จากล็อบบี้ด้านล่าง
ราคาคืนละ 1300 บาท สำหรับ 2 คน

ต้องบอกว่า แช่น้ำร้อนทุกคืนเลย จากที่เจออากาศหนาวมาทั้งวัน
การได้แช่น้ำร้อน 40 องศา คือฟินสุดๆ 


หลังจากเก็บของ แต่งตัวใหม่กันเรียบร้อย
ก็ออกมาเผชิญอากาศ ติดลบ ข้างนอก
แต่เสื้อที่เอามา เอาอยู่นะ 

อันดับแรกคือเข้า Lawson ซื้อเบียร์ก่อนเลย
ยี่ห้อ SAPPORP CLASSIC นี่อร่อยนะ อร่อยกว่าปกติอ่ะ






แล้วก็เดินไปตรงแยก คุณลุง NIKKA
เราจะเรียกแยกนี้ว่า คุณลุง NIKKA จำง่ายดี
แล้วก็ อยู่ใจกลางซูซูกิโนะเลย






เราถ่ายรูปอยู่นานพอสมควร แต่อย่างที่บอกว่าอยู่ขข้างนอกนานๆ
มันก็ยิ่งหนาว หาที่หลบหนาว หาที่กินราเมนดีกว่า
ซึ่งหามาตั้งแต่ที่ไทยแล้ว ร้านนี้ไม่มีรีวิว เพราะไล่หาจาก map เอา
ร้านนี้ เป็นร้าน Local เล็กๆ แถวย่านตลาดทานุกิโกจิ

ชามละ 500 เยนเอง ซึ่งถือว่าถูกมากๆสำหรับที่นี่
ร้านอื่น 1000 เยนทั้งนั้นเลย







น้ำซุปมีให้เลือก คือมิโสะ และ ซอสถั่วเหลือง
ซุปซอสถั่วเหลืองอร่อยนะ แต่ถ้าคนกินราเมนบ่อยๆ น่าจะชอบซุปทงคตสึ
แต่ไม่ว่าอะไรก็แล้วแต่ บัดนี้ได้หมดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว



หน้าตาครัวก็จะบ้านๆแบบนี้เลย



หลังจากอิ่มท้องแล้วก็ เดินไปย่าน ตลาดคริสมาสต์ แบบเยอรมัน
หรือเรียกว่า GERMAN MARKET
เป็นตลาดที่ขายของคริสมาสต์ บรรยากาศหนาวๆ จิบเบียร์ไรแบบนี้
แต่พอเอาเข้าจริง มันหนาวซะจนไม่อยากทำไรเลย 5555










แต่ของที่อยู่ในงานสวยมาก
ชอบอ่ะ บรรยากาศจะคล้ายๆสไตล์เยอรมัน







แถมเห็น เสาทีวีทาวเวอร์ด้วยจากจุดนี้



เราเดินอยู่นาน ทนไม่ไหว ซื้อดาร์กช็อก มา 1 แก้ว
และชุดซอสเสจ มา 1 ชุด รวมแล้วชุดนี้ 1300 เยน
ประมาณ 300 กว่าบาท  ต้องบอกว่า ดาร์กช็อก คือกินไม่ได้เลย
คือมันข้นมาก เหมือนซอสช็อกโกแลตเลย
หวานมาก ต้องเอามันฝรั่งมาจิ้ม ถึงกินได้

สามารถชุบแล้วเป็นเอาขึ้นมาเป็นช็อกโกแลตเคลือบติด
มันข้นแบบนั้นเลย



หลังจากกินเสร็จ ก็เดินกลับที่พัก ระหว่างเดินกลับก็เริ่มมีหิมะตกลงมาบ้าง
ประปราย ถ้าโชคดี พรุ่งนี้เราคงได้เจอหิมะตก ในเมือง











ฝันดีราตรีสวัสดิ์ กับอากาศติดลบในวันนี้
ใส่ชุดญี่ปุ่นแล้วนึกถึงโดราเอมอน 555










Popular Posts

Facebook